ยูเครนซัดเดือดอียู “หงอไม่กล้าแบนนทท.มอสโก” ขณะรัสเซียเย้ยแรง EU ยิงปืนใส่เท้าตัวเอง

0

จากกรณีรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปเห็นชอบระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกด้านวีซ่ากับรัสเซียโดยสมบูรณ์ ส่งผลให้พลเมืองรัสเซียเข้าสู่สหภาพยุโรปได้ยากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นนั้น

ทั้งนี้ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของกลุ่ม โจเซป บอร์เรลล์ (Josep Borell) กล่าวว่า “เราตกลงที่จะระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าของสหภาพยุโรป-รัสเซียอย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้จะช่วยลดจำนวนวีซ่าใหม่ที่ออกโดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้อย่างมาก มันจะยากขึ้นและใช้เวลานานกว่านี้”

ขณะที่นักการทูตกล่าวว่า รัฐมนตรีสหภาพยุโรปไม่สามารถตกลงกันได้ในทันทีเกี่ยวกับการห้ามวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับรัสเซียแบบครอบคลุม เนื่องจากประเทศสมาชิกต่างมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในประเด็นนี้

นอกจากนี้ บอร์เรลล์ ยังกล่าวอีกว่า “มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในการข้ามพรมแดนจากรัสเซียไปยังประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม สิ่งนี้ได้กลายเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสำหรับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ นอกจากนี้ เราได้เห็นชาวรัสเซียจำนวนมากเดินทางเพื่อพักผ่อน และช้อปปิ้งราวกับว่าไม่มีสงครามเกิดขึ้นในยูเครน”

อย่างไรก็ตาม หลังจากเอสโตเนีย ฟินแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนียและโปแลนด์ออกแถลงการณ์ร่วมกันต่อคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อลดการปริมาณเดินทางของพลเมืองรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป

ล่าสุดวันนี้ 02 กันยายน 2565 สื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่า บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรือ อียู มีมติเห็นพ้องระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซีย ซึ่งจะทำให้ชาวรัสเซียได้รับวีซ่าเดินทางเข้าอียูยากขึ้น แต่ไม่ได้ประกาศแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซีย

โดยในรายงานระบุว่า นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของอียู กล่าวในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูที่กรุงปรากของสาธารณรัฐเช็กว่า อียูจำเป็นต้องระงับข้อตกลงอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่ากับรัสเซีย หลังพบว่ามีพลเมืองรัสเซียเดินทางข้ามแดนผ่านเข้าอียูเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงต่อประเทศสมาชิกของอียูที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย

ที่ผ่านมามีชาวรัสเซียจำนวนมากที่เดินทางมาพักผ่อน หรือชอปปิงในประเทศสมาชิกของอียูราวกับว่าไม่มีสงครามเกิดขึ้นในยูเครน ซึ่งบอร์เรลล์ เองก็ไม่เห็นด้วยกับการประกาศแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซีย เพราะเขาเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียที่ต่อต้านสงครามยูเครน หรือ ภาคประชาสังคมในรัสเซีย อีกทั้งยังระบุว่า ประเทศสมาชิกอียูที่มีพรมแดนติดรัสเซียมีอิสระที่จะประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของพลเมืองรัสเซีย

ขณะเดียวกัน นายอเล็กซานเดอร์ กลุชโก รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า มาตรการดังกล่าวของอียูเปรียบเหมือนกับการตัดสินใจยิงปืนใส่เท้าตนเอง

ส่วนนายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศยูเครน กล่าวตำหนิการใช้มาตรการของอียูว่าเป็นแนวทางแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ

ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศสมาชิกอียูที่มีพรมแดนติดรัสเซีย ได้แก่ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่าอาจใช้คำสั่งแบน หรือ จำกัดวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคง แต่ฝรั่งเศสกับเยอรมนีระบุในแถลงการณ์ร่วมกันโดยเตือนเรื่องการใช้คำสั่งแบนวีซ่านักท่องเที่ยวรัสเซียเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามมากขึ้นในอนาคต