รัฐบาลย้ำความสำเร็จ การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ ๑๑ ผลักดันแนวคิดท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มุ่งสร้างสรรค์และฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม จากนี้พร้อมลุยต่อการประชุม APEC CEO Summit จัดคู่ขนานโดยภาคธุรกิจเอกชน ไปพร้อมๆกับการเป็นเจ้าภาพผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคของรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
วันที่ ๑ ก.ย.๒๕๖๕ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ ๑๑ จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเวทีการประชุมเอเปค ๒๐๒๒ ที่สำคัญสร้างโอกาสร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
โดยในการประชุมนี้ ไทย ผลักดัน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ๑. การส่งเสริมการค้าการลงทุนเสรีและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ๒. การส่งเสริมการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัย ผ่านการจัดตั้งกลไก APEC Safe Passage Taskforce และ ๓. การส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุมในเอเปค ส่งผลสำเร็จจนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำคัญ ๒ ประการ คือ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเปคให้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม: การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน และ คู่มือเอเปคสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยว ฉบับปรับปรุง
โดยก่อนเข้าสู่การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ ๑๑ ในช่วงระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๕ มีการประชุมคณะทำงานด้านท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ ๖๐ ร่วมหาข้อสรุปการประชุมด้านท่องเที่ยว รวมทั้งยังมีกิจกรรมคู่ขนานเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวชุมชน และสามารถเชื่อมโยงไปสู่แนวคิดหลักของการประชุม คือ ‘การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืนใต้แนวคิด (Regenerative Tourism)’ ได้
นายอนุชา กล่าวว่า“รัฐบาลไทยมุ่งสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม พร้อมร่วมมือกับทุกเขตเศรษฐกิจในการดูแลรักษาทรัพยากร ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวภายหลังโควิด-๑๙ ให้คงอยู่อย่างสมดุล ยั่งยืน และฟื้นกลับคืนมา ประกอบกับ สร้างระบบเศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวที่เน้นให้คนท้องถิ่นมีอาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
ด้านภาคเอกชน เตรียมนับถอยหลังAPEC CEO Summit 2022 เวทีแลกเปลี่ยนความเห็นผู้นำธุรกิจแห่งเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมผนึกกำลังไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์ (PwC)- พันธมิตรด้านองค์ความรู้ ผู้สนับสนุนข้อมูลธุรกิจเชิงลึกระหว่างวันที่ ๑๖ -๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕นี้
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธาน APEC CEO Summit ๒๐๒๒ และสมาชิกสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปคไทย เปิดเผยว่าภาคเอกชนไทย พร้อมแล้วสำหรับบทบาทเจ้าภาพ ภายใต้การจัดงานในแนวทาง Embrace, Engage Enable การประชุมที่นับเป็นการรวมตัวสุดยอดซีอีโอ ผู้นำเอเปค ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำทางความคิดระดับภูมิภาคและระดับโลกจาก ๒๑ เขตเศรษฐกิจ
ในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการค้าและเศรษฐกิจ ตลอดจนการแสวงหาแนวทางในการแก้ไขประเด็นที่สำคัญ และการจัดการกับความท้าทายที่ธุรกิจต่างๆ ที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั้งโลกกำลังเผชิญ
สำหรับความพิเศษของการประชุมในปีนี้ จะมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงทางเศรษฐกิจและธุรกิจทั่วโลกเดินทางเข้าร่วมงานแบบพบหน้า รวมทั้งผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคมากกว่า ๑๐ ประเทศ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อต่าง ๆ ที่กำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจ รวมทั้งผู้นำทางความคิดและวิทยากร ที่ล้วนแต่เป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
“ในฐานะเจ้าภาพ นับเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเวทีทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญ ตลอดจนเป็นการแสดงศักยภาพของภาคธุรกิจไทยสู่เวทีโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคงด้านอาหาร การลงทุน การท่องเที่ยว การเงิน”
ทั้งนี้ ภาคเอกชนกำลังระดมกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่จากทั่วประเทศให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงาน ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญจากภาคเอกชนไทย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศต่อไปในอนาคต
สำหรับสถานที่การจัดงาน ได้มีการยืนยันเป็น โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล เนื่องจากมีพิกัดใกล้เคียงกับการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2022) ของภาครัฐบาล ซึ่งจะอำนวยความสะดวกทางด้านการจราจรให้กับผู้เข้าร่วมประชุมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม จะมีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมฯ ในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ เดอะ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม และการจัดกาลาดินเนอร์ ณ ห้องรอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ในวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ นอกเหนือจากสถานที่การจัดประชุมหลัก