“ความพยายามล่าสุดของศัตรูในการโจมตีล้มเหลวอย่างน่าสังเวช” เป็นคำรายงานต่อที่ประชุมของแม่ทัพรัสเซีย ต่อปฏิบัติการบุก ๓ เมืองของกองทัพยูเครน ในขณะที่สื่อตะวันตกพากันเชียร์สุดลิ่มว่า ยูเครนรุกกลับตีรัสเซียแตก ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงป่านนี้ต้องพากันฉลองถ่ายรูปลงโซเชียลกระหึ่มแล้ว แต่นี่เงียบมีแต่ข่าวปั่นจากตะวันตก
สถานการณ์ที่แท้จริงในพื้นที่สู้รบ มีความเสียหายจากการโจมตีแน่นอน และทางการรัสเซียไม่ได้รายงานจำนวนการสูญเสียกำลังพล แต่การยึดครองพื้นที่ยังคงเหมือนเดิม ซึ่งเป็นธรรมดาของสงครามมีรุกและรับ ยูเครนพยายามรุกเมื่อเกิดกระแสพรรคพวกจะเท ไม่ส่งเงินไม่ส่งอาวุธเพราะหมดคลัง จึงเร่งสร้างผลงานแต่เหมือนเอาไข่ไปกระแทกหิน ทั้งเสียชีวิตกำลังพล เสียอาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องถอยร่นและมีบางหน่วยยอมจำนน จนแม่ทัพรัสเซียบอกว่าเคียฟถอนร่นอย่างอนาถเพราะเข้าโจมตีอย่างไร้ระบบระเบียบ
วันที่ ๓๑ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า ก่อนหน้าโจมตีเคอร์ซอนหนึ่งวัน สื่อยูเครน Suspilne อ้างคำพูดของโฆษกกองบัญชาการภาคใต้ นาตาเลีย ฮูเมนิค (Natalia Humeniuk) ว่า“การเข้าโจมตีในทิศทางต่างๆได้เริ่มขึ้นแล้ว รวมถึงในภูมิภาคเคอร์ซอนด้วย” อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ให้รายละเอียดและกล่าวเพียงว่า“ปฏิบัติการทางทหารใด ๆต้องการความเงียบ”
อย่างไรก็ตาม ในเย็นวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ทั่วไปของกองทัพยูเครนกล่าวถึงการโจมตีรัสเซียใกล้หมู่บ้านโปเต็มกิโน (Potemkino) เท่านั้น
เคียฟได้คุยโวเกี่ยวกับ”การตอบโต้รัสเซียที่เคอร์ซอนตลอดฤดูร้อน” ขณะที่เรียกร้องอาวุธและกระสุนเพิ่มเติมจากผู้สนับสนุนสหรัฐและตะวันตก ในการปราศรัยวิดีโอที่เผยแพร่ในวันอาทิตย์ที่ ๒๘ ส.ค.ที่ผ่านมา เซเลนสกี้ (Zelensky) สาบานว่า”ยูเครนจะยึดพื้นที่กลับมาทั้งหมด ทั้งดอนบาส คาร์คอฟ ซาโปริชเชียและเคอร์ซอน รวมถึงไครเมียด้วยอย่างแน่นอน”
ผลการรบครั้งล่าสุด กองทหารของเคียฟประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการโจมตีที่ล้มเหลวซึ่งกำกับและสั่งการโดยตรง จากปธน.เซเลนสกี้
หลังจากปล่อยยูเครนและตะวันตกโม้ไป ๑ วัน รัสเซียได้เผยแพร่ผลการประเมินการตอบโต้ของยูเครนในพื้นที่สู้รบ ระบุว่าการโจมตีเป็นไปอย่างสะเปะสะปะทางตอนใต้ของประเทศ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยระบุรายการความสูญเสียโดยประมาณที่เคียฟได้รับระหว่างปฏิบัติการ
เซอร์เกย์ ชอยกู รมว.กลาโหมรัสเซียกล่าวว่า “การตอบโต้ที่โด่งดังของยูเครนในเคอร์ซอนนั้นล้มเหลวอย่างน่าอนาถ” กองกำลังยูเครนพยายามโจมตีในสามทิศทาง ตามคำสั่งของปธน.เซเลนสกี แต่ไม่สำเร็จเสียหายมาก”
โคนาเชนคอฟ (Konashenkov) โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่ากองทหารรัสเซียทำลายยานยนตฺ์ของเคียฟได้เพียบ “ทำลายรถถัง ๔๘ คัน, ยานรบทหารราบ ๔๖ คัน, รถหุ้มเกราะอื่นๆ ๓๗ คัน, รถปิคอัพ ๘ คันพร้อมปืนกลหนัก และทหารยูเครนมากกว่า ๑,๒๐๐ เสียชีวิตในหนึ่งวัน” กระทรวงกล่าวเสริมว่า เคียฟสูญเสียทั้งอาวุธและกำลังทหารในระหว่างการบุกที่ไม่เป็นระบบ อลหม่านไม่เรียบร้อย ซึ่งทิศทางกองทหารยูเครนเข้าโจมตีนิโคเลฟ, คริวอย ร็อก และเมืองอื่นๆประปราย ทางตอนใต้ของยูเครนในช่วงเวลาเดียวกันและไม่เป็นเอกภาพสับสน
โฆษกกระทรวงกล่าวต่อไปว่ากองกำลังของมอสโกว์ได้ ปะทะกับหน่วยกองพลจู่โจมยูเครนที่ ๑๒๘ “ทหาร ๕ คนจากกองพลน้อยนี้วางอาวุธและยอมแพ้”
กองกำลังรัสเซียยังได้กวาดล้าง“ผู้ก่อการร้ายมากกว่า ๒๐๐ คน รวมถึงทหารรับจ้างต่างชาติประมาณ ๔๐ คน หน่วยยานเกราะมากกว่า ๒๐ หน่วย
โฆษกรายงานเพิ่มเติมว่า “ทหารยูเครนและกลุ่มติดอาวุธคราเคน (Kraken) กว่า ๑๐๐คนเสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพรัสเซียในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์”
รัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารเข้าไปในยูเครนเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยย้ำความล้มเหลวของเคียฟในการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสค์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์มีสถานะพิเศษภายในรัฐยูเครน ข้อตกลงมินส์นี้มีเยอรมนีและฝรั่งเศสร่วมลงนามครั้งแรกในปี ๒๐๑๔ อดีตประธานาธิบดียูเครน โปโรเชนโก (Pyotr Poroshenko) ยอมรับว่าเป้าหมายหลักของเคียฟคือการใช้เวลาหยุดยิงเพื่อซื้อเวลาและ”สร้างกองกำลังติดอาวุธที่ทรงพลัง”เท่านั้นไม่ได้ยอมรับข้อตกลงนั้นแต่อย่างใด
สงครามที่แท้จริงจึงได้เริ่มมาตั้งแต่ ๒๐๑๔ ด้วยการปราบปรามโดเนตสก์และลูฮันสก์อย่างหนักของยูเครน จึงมาถุึงวันนี้ที่การสู้รบดุเดือดย่างเข้าเดือนที่ ๗ สถานการณ์ล่าสุดส่อเค้าว่า สงครามในยูเครนยังไม่มีทางสงบจบลงได้ง่ายๆ เพราะสปอนเซอร์ไม่ยอม จนกว่ารัสเซียจะชนะเบ็ดเสร็จ ในยูเครน หรือไม่ก็ขยายวงเป็นสงครามใหญ่ระหว่างรัสเซียและพันธมิตร กับสหรัฐและนาโต้ในยุโรปและพื้นที่ใกล้เคียง นั่นหมายถึงโลกไม่อาจหลีกเลี่ยงมหันตภัยนิวเคลียร์นั่นเอง แค่คิดก็สยดสยอง????
