เปิดไทม์ไลน์ ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ เป็นรายที่ 33 เป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี มีโรคประจำตัว SLE หรือโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เข้ารับการรักษา 1 วัน จากนั้นเสียชีวิตลง
วันที่ 10 เมษายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย แจ้งยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 43 ปี ประกอบอาชีพแม่ค้า
เข้ารับการรักษาตัวเมื่อ 6 เมษายน 2563 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา ลักษณะของอาการ มีไข้ 38.9 องศา ถ่ายเหลว อาเจียน หายใจหอบเหนื่อย ซึ่งไม่เป็นอาการหลักที่เกี่ยวข้อง เมื่อมาถึง รพ. ก็อยู่ในสภาวะช็อกแล้ว ซึ่งแพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และทำการรักษาตามขั้นตอน

และวันต่อมาได้เสียชีวิตลง (7 เมษายน 2563) หลังมีโรคประจำตัวแทรกซ้อนจากการเป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (SLE) และผลแล็ปเอกซเรย์ปอดพบว่า ปอดอักเสบแบบรุนแรง และติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 33 รายแล้ว
สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเป็นกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มของผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ แบ่งเป็น
- กลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 27 ราย
- กลุ่มคนไทยมาจากต่างประเทศ (อังกฤษ สหรัฐอเมริกา) 3 ราย
- ไปที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า สถานทีท่องเที่ยว 3 ราย
- อาชีพเสียง 5 ราย
- บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย
- อยู่ในระหว่างการสอบสวน 4 ราย ( active search – ภูเก็ต 4 ราย )

กลุ่มรายใหม่วันนี้มาจากจังหวัด กทม. 19 ราย , ยะลา 7 ราย , ภูเก็ต 5 ราย , นนทบุรี สมุทรปราการ 4 ราย, นครสวรรค์ ปราจีนบุรี 2 ราย และ ฉะเชิงเทรา ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส พะเยา สุราษฎร์ธานี พังงา 1 ราย
โดยยอดผู้ติดเชื้อเมื่อเทียบกับอัตราส่วนประชากร 1 แสนคน
- 1.ภูเก็ต 38.95
- 2.กทม. 22.25
- 3.ยะลา 13.10
- 4.นนทบุรี 11.31
- 5.ปัตตานี 9.15

ณ ตอนนี้เหลือ 9 จังหวัดที่ยังไม่รายงานการรับรักษาผู้ป่วย ประกอบด้วย กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทอง