จากที่เพจ World Update ได้เผยแพร่ข้อมูลโดยอ้างถึงความล้มเหลวของสหรัฐในการขึ้นสู่อวกาศและดวงจันทร์ที่มีข้อเท็จจริงบางอย่างเปิดเผยออกมาว่าอาจมีความผิดพลาดในเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ เพจ World Update ได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านการโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ซึ่งระบุถึงแหล่งที่มาจาก CollectSpace , astroeducation , AFP , bloomberg และ MGRonline โดยมีเนื้อหาบางส่วนว่า เมื่อกว่า 50 ปีก่อน ช่วงปี 2500 – 2518 สหรัฐ ติดหล่มสงครามในเวียดนามและกำลังเพลี่ยงพล้ำพ่ายแพ้ต่อฝ่ายสหภาพโซเวียต ต้องพิมพ์เงินดอลลาร์ใช้จนท่วมโดยไร้ทองคำค้ำประกัน เกิดอัตราเงินเฟ้อสูง ประชาชนตกงาน ยากจนทั้งประเทศ
ขณะนั้นเกิดการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหภาพโซเวียต และสหรัฐ ทำให้องค์การ NASA ออกอีเว้นท์สารคดีการส่งฝูงยาน Apollo และมนุษย์อวกาศ ไปลงบนดวงจันทร์ แล้วออกข่าวไปทั่วโลกว่าได้เก็บหินและดินดวงจันทร์ กลับมายังโลก
ในช่วงปี 2503 – 2515 องค์การ NASA อ้างว่าได้นำตัวอย่างหินจากดวงจันทร์กลับมายังโลกมากมายถึง 2,197 ตัวอย่าง มีน้ำหนักรวม 382 กิโลกรัม แล้วได้มอบหินส่วนแรกประมาณ 270 ก้อน ให้กว่า 130 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
อังกฤษ ออสเตรเลีย , แคนาดา นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศ “ไม่ยอมจัดแสดงหินดวงจันทร์แก่สาธารณะ” แต่อ้างแค่ว่าเก็บรักษาหินดวงจันทร์ไว้นานหลายสิบปี , เอกวาดอร์ และไซปรัส ระบุว่า “ไม่เคยทราบเรื่อง และไม่ได้รับหินดวงจันทร์เลยตามที่สหรัฐ อ้างถึง”
สเปน , โรมาเนีย , ปากีสถาน , นิคารากัว หินดวงจันทร์ ก็สูญหายไป , อัฟกานิสถาน หินดวงจันทร์ในพิพิธภัณฑ์ก็ถูกปล้นไป , มอลตา ก็ถูกขโมยไป , ที่ไทยนั้น สหรัฐ อ้างว่ามนุษย์อวกาศได้นำธงไตรรงค์ไปตั้งอยู่บนดวงจันทร์ 3 วัน ก่อนนำกลับมายังโลก และมอบหินดวงจันทร์มาให้ไทยจัดแสดง ต่อมาไม่นานก็ถูกขโมยสูญหายไปจากท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพ
เจนนิเฟอร์ รอสส์-นาซซาล นักประวัติศาสตร์ของ NASA ยอมรับว่า “ได้ส่งมอบตัวอย่างหินให้กับกระทรวงต่างประเทศเพื่อแจกจ่ายต่อไป เราไม่มีบันทึกใดๆ ว่าได้มอบหินเหล่านั้นให้กับใครและเมื่อใดบ้าง”
ช่วง ส.ค.2552 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ ยุโรป ได้ประกาศช็อคโลกว่าผลทดสอบหินดวงจันทร์ที่ได้รับมาจาก NASA อย่างเป็นทางการ ขนาดเท่าลูกพลัม หนัก 89 กรัม ซึ่งเกินน้ำหนักของตัวอย่างหินที่สหรัฐ ส่งให้ประเทศต่างๆ “เป็นของปลอมโดยเป็นเพียงชิ้นส่วนของไม้กลายเป็นหิน” ซึ่งอาจจะมาจากแอริโซนา สหรัฐฯก็เป็นได้
โดยนักวิทยาศาสตร์ NASA ใช้เครื่องมือตรวจจำแนกสารที่มีความทันสมัยและแม่นยำมากที่สุดในปัจจุบัน ดร.จูเลียน กรอสส์ ระบุว่า “ตัวอย่างหินในหลอดเก็บมาจากพื้นด้านล่างของหุบเขา Taurus-Littrow ดวงจันทร์ซึ่งเป็นบริเวณที่มีร่องรอยของดินถล่ม แต่จากหลักฐานวิจัยสมัยใหม่บนดวงจันทร์ไม่มีลมและฝนที่จะทำให้เกิดดินถล่มตามธรรมชาติได้ จึงน่าสงสัยว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร”
สหรัฐ อ้างว่าหินดวงจันทร์ที่นำกลับมาโลกโดยยาน Apollo มีอายุมากกว่า 3,000 ล้านปี แต่ที่น่าแปลกคือ ยานอวกาศ Chang’e-5 ขององค์การอวกาศจีน ได้เก็บตัวอย่างหินและเศษซากจากดวงจันทร์กลับมายังโลก และทำการวิเคราะห์อย่างโปร่งใสกับทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ รวมถึงจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐ มีความเห็นตรงกันว่าอายุของหินดวงจันทร์เหล่านี้เกือบ 1,970 ล้านปี
ซึ่งขัดแย้งอายุกันมากกับหินของสหรัฐ ประหนึ่งว่าจีน เก็บตัวอย่างหินมาจากดวงจันทร์ ส่วนสหรัฐ เก็บตัวอย่างหินมาจากแถวบ้านมาวิเคราะห์หาอายุ เนื่องจากโลกมีอายุมากกว่าดวงจันทร์ที่เป็นดาวบริวาร โดยวันที่ 29 สิงหาคม 2565 นี้องค์การ NASA มีแผนจะส่งยาน Artemis1 พร้อมมนุษย์ปลอมขึ้นไปกับยานแล้วไปวนส่องรอบดวงจันทร์
โดยจะไม่ได้เก็บหินดวงจันทร์สักกรัมติดยานกลับโลกมาด้วย และถ้ายานไม่ระเบิดขณะปล่อยขึ้นเหมือนเคย อีก 3 ปีหน้าจะส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์เก็บหินกลับมา จากนั้นอีก 50 ปีหน้าจึงจะมีแผนเริ่มวิเคราะห์หินใหม่พร้อมหินเดิมหมายถึงชั่วชีวิตคนยุคนี้จะไม่ได้ทราบผลวิเคราะห์แน่นอน”