หลังจากที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดยื้อมานานกว่า 6 เดือน ได้มีรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของรัสเซียว่าหดตัวไม่ถึง 3% ในปี 2022 น้อยกว่าที่คาดหมายไว้ในเบื้องต้นอย่างมาก แถมเงินเฟ้อจะต่ำกว่าตัวเลขประมาณการด้วย โดยมาจากคำกล่าวอ้างของอันเดร เบลูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 เมื่อเทียบกับฝั่งสหราชอาณาจักร ซึ่งร่วมคว่ำบาตรรัสเซียมาแต่ต้น พบผับจำนวนมากทั่วประเทศจำเป็นต้องปิดให้บริการ สืบเนื่องจากแบกรับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นไม่ไหว
เศรษฐกิจของรัสเซียถูกเล่นงานโดยมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ตามหลังมอสโกเคลื่อนไหวส่งทหารหลายหมื่นนายยกพลบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่หลังจากนั้น เศรษฐกิจของรัสเซียพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้รับความเจ็บปวดจากมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอย่างที่กังวลกันในเบื้องต้น
เบลูซอฟ บอกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของรัสเซียจะหดตัวมากกว่า 2% เล็กน้อยในปีนี้ จากนั้นก็จะหดตัวไม่มากไปกว่า 1% ในปี 2023
ก่อนหน้านี้ จากตัวเลขประมาณการล่าสุดของกระทรวงเศรษฐกิจรัสเซียในช่วงกลางเดือนสิงหาคม บ่งชี้ว่าจีดีพีจะหดตัวราวๆ 4.2% ในปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยเตือนว่าจะหดตัวมากกว่า 12% ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงจะถือเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตช่วงกลางทศวรรษ 1990 ตามหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดหมายของรัสเซีย สวนทางกับสหราชอาณาจักร ชาติที่ร่วมกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก โดยล่าสุดสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานโดยอ้างคำพูดของบุคคลชั้นนำในภาคอุตสาหกรรมผับบาร์ของประเทศ ว่าผับบาร์ต่าง ๆ จำนวนมากของสหราชอาณาจักรอาจจำเป็นต้องปิดบริการ เนื่องจากราคาค่าพลังงานที่แพงขึ้นอย่างมาก พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเข้าแทรกแซง
บรรดาผับขนาดใหญ่และเหล่าบริษัทเหล้าเบียร์ เปิดเผยว่า ผับบางแห่งพบเห็นบิลค่าไฟแพงขึ้นมากกว่า 3 เท่า ส่วนหนึ่งในวิกฤตค่าครองชีพที่กำลังได้รับผลกระทบในวงกว้าง “เรามีเจ้าของร้านที่เผชิญกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 300% และบริษัทพลังงานบางแห่งปฏิเสธแม้กระทั่งแจ้งราคาสำหรับอุปทาน” วิลเลียม ลีส์ โจนส์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มผับเจดับเบิลยู ลีส์ กล่าว
ผู้เช่าผับแห่งหนึ่งในกลุ่ม Greene King ซึ่งมีสาขา 2,700 แห่ง พบเห็นบิลค่าไฟเพิ่มขึ้นมากกว่า 33,000 ปอนด์ในปีนี้ (ราว 1.4 ล้านบาท) จากการเปิดเผยของ นิค แม็คเคนซี กรรมการผู้จัดการกลุ่ม Greene King
“ในขณะที่รัฐบาลเปิดตัวมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนรับมือกับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น แต่ภาคธุรกิจกำลังเผชิญเรื่องนี้เพียงลำพัง และมันจะเลวร้ายลงไปกว่านี้อีกเมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน”
หากรัฐบาลไม่แทรกแซงเพื่อสนับสนุนภาคอุสาหกรรมนี้ในทันที เรามีโอกาสเผชิญแนวโน้มว่าผับต่าง ๆ อาจไม่สามารถจ่ายบิลต่าง ๆ ได้อีกต่อไป พนักงานต้องตกงาน และชาวบ้านทั่วประเทศอาจจำเป็นต้องปิดประตู นั่นหมายความว่าความพยายามทำงานหนักใด ๆ ก็ตามเพื่อให้ผับบาร์เปิดบริการระหว่างโรคระบาดใหญ่ อาจกลายเป็นการเสียเวลาเปล่า
วิกฤตค่าครองชีพในสหาชอาณาจักรกำลังหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี มันกระตุ้นให้เกิดการประท้วงในวงกว้างต่อข้อเสนอขึ้นค่าแรงซึ่งไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Ofgem ผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านพลังงาน ประกาศว่าจะปรับเพิ่มเพดานราคาพลังงานสำหรับผู้บริโภคโดยเฉลี่ยเป็น 3,549 ปอนด์ต่อปี โดยเพิ่มขึ้น 80% จาก 1,971 ปอนด์ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ท่ามกลางความคาดหมายว่าบิลค่าพลังงานจะปรับสูงขึ้นกว่านี้อีกตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า
แต่เพดานราคาพลังงานไม่ได้ใช้กับภาคธุรกิจ ดังนั้น บริษัทต่างๆ ในนั้นรวมถึง Greene King เจดับเบิลยู ลีส์ และอื่นๆ จึงเรียกร้องรัฐบาลผ่านจดหมายเปิดผนึกให้ขยายมาตรการกำหนดเพดานราคาพลังงานครอบคลุมถึงภาคธุรกิจด้วย