จากที่ทางการจีนได้เข้าช่วยเหลือหมู่เกาะโซโลมอน ทำให้สองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งยังมีกระแสข่าวถึงสถานการณ์ที่ถูกจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐ ที่เกรงว่าจีนจะเข้าตั้งฐานทัพที่หมู่เกาะโซโลมอนด้วยนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 สิงหาคม 2565 เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ผ่านการระบุแหล่งที่มาอย่าง sputnik news และStar and Stripes News ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงที่น่าสนใจว่า
“ด้วยในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้นั้น จีนได้ขยายอิทธิพลมากขึ้นในภูมิภาคนี้ ทำให้สหรัฐ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรสงคราม AUKUS เพิ่มขีดความสามารถเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของออสเตรเลีย โดยสหรัฐแย่งออร์เดอร์ต่อเรือดำน้ำมาจากฝรั่งเศส แล้วบังคับให้ออสเตรียจ่ายค่าปรับค่าเสียหายให้ฝรั่งเศสไป
หมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ห่างจากออสเตรเลียราว 2,000 กม. เคยมีความสัมพันธ์กับสหรัฐสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเกือบ 8 ทศวรรษก่อน ต่อมาราว 20 ปีที่แล้ว สหรัฐฯปิดสถานทูตในกรุงโฮนีอารา ของหมู่เกาะโซโลมอน ทำให้ทั้งสองประเทศเริ่มมีความขัดแย้งกันขึ้นและไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน
ปี 2019 หมู่เกาะโซโลมอนจึงพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจ ช่วยเหลือวัคซีนโควิดเชื้อตาย ทำให้โซโลมอนแทบไม่มีการระบาดของโรคนี้เหมือนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ที่ใช้วัคซีน mRNA ทำให้สหรัฐฯ และออสเตรเลีย โกรธและอายมาก ต่อมา เม.ย.2022 จีนได้ลงนามในสนธิสัญญาความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอน ทำให้ออสเตรเลียไปฟ้องสหรัฐว่าสนธิสัญญาดังกล่าวจีนอาจประจำการกองทัพระยะไม่ถึง 2,000 กม.
นายเซด เซเซลจา รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ และมหาสมุทรแปซิฟิกของออสเตรเลีย นั่งไม่ติดได้บินไปเยือนกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอน เพื่อพยายามบังคับให้รัฐบาลโซโลมอนไม่ลงนามในความตกลงความมั่นคงและการค้ากับจีนเพราะกังวลว่าจะเจริญแซงหน้าออสเตรเลียจากเทคโนโลยีจีนที่หลั่งไหลมา
นายกรัฐมนตรี มนัสเสห์ โซกาวาเร แห่งเกาะโซโลมอนให้ความมั่นใจว่าประเทศของเขาจะไม่เป็นฐานทัพต่างประเทศเนื่องจากจะทำให้เป็นเป้าหมายของการโจมตีทางทหาร และต่อมาจีนก็ส่งตำรวจจำนวนมากไปประจำการบนหมู่เกาะแห่งนี้ไม่สนไม่แคร์คำขู่บังคับของสหรัฐ และออสเตรเลีย
ล่าสุดเรือสหรัฐ USGCG Oliver Henry ที่เป็นเรือลาดตระเวนยามฝั่งตามเกาะ ได้ขออนุญาตแล่นเข้าไปยังชายฝั่งท่าเรือกัวดาลคานาล ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงโฮนีอารา ของโซโลมอน อ้างว่า เพื่อเติมน้ำมัน
แต่ ร.ท.คริสติน คัม แห่งกองทัพเรือสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนไม่อนุญาตต่อคำร้องขอของรัฐบาลสหรัฐฯ ทางการทูตสำหรับเรือเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงและพักในกรุงโฮนีอารา ทำให้เรือสหรัฐ ลำนี้ต้องเปลี่ยนเส้นทางล่องเรือต่อไปที่ปาปัวนิวกินีเพื่อเติมน้ำมัน โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯติดต่อกับทางการโซโลมอน โดยขู่ว่า “สหรัฐฯ จะโจมตีทางทหารต่อหมู่เกาะหากจีนจัดตั้งฐานทัพทหารถาวรในหมู่เกาะโซโลมอน”
ปัจจุบันสหรัฐ ได้ไปตั้งฐานทัพถาวรทั่วโลก 850 แห่งพร้อมประจำการทหารอเมริกัน และขีปนาวุธ เพื่อปล้นทรัพยากรจากประเทศเหล่านั้น และติดตั้งอาวุธประจำการมณฑลไต้หวัน ระยะห่าง 130 กม.จากจีน สหรัฐอ้างว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่ถ้ารัฐบาลโซโลมอน ห่างออสเตรเลีย 2,000 กม.จะให้จีนมาตั้งฐานทัพบ้าง แบบนั้นสหรัฐยอมไม่ได้และจะโจมตีสังหารชาวโซโลมอนทุกคนทันที”