เซเลนสกีโดนเท! มติ UN พลิก หนุนยูเครนไม่ถึง 1 ใน 3! ขณะทูตรัสเซีย แฉหลักฐานกลางวง ชี้ตะวันตก เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (26 สิงหาคม 2565) สำนักข่าว RT News รายงานว่า ข้อเสนอล่าสุดของยูเครนในการประณามรัสเซียดึงดูดการสนับสนุนจาก 58 ประเทศจาก 193 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งห่างไกลจากจำนวนที่สนับสนุนเคียฟในเชิงสัญลักษณ์ในการประชุมสมัชชาใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม
ทูตของเคียฟประจำสหประชาชาติ Sergey Kislitsa ประกาศมติที่เสนอเมื่อวันพุธหลังจากการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง ที่ จัดขึ้นในวันประกาศอิสรภาพของยูเครน เซสชั่นดังกล่าวมีวิดีโอกล่าวสุนทรพจน์โดยประธานาธิบดี วลาดิมีร์ เซเลนสกี ซึ่งสภาต้องแทนที่ระเบียบการที่กำหนดให้ต้องปรากฏตัวต่อหน้า และแถลงการณ์ของรัฐบาลตะวันตกประณามรัสเซีย
ขณะที่ทูตของมอสโก วาซิลี เนเบนเซีย ได้เปิดเผยว่า มีหลักฐานความโหดร้ายของยูเครนในบันทึก และแม้กระทั่งการตั้งชื่อผู้สนับสนุนชาวตะวันตกของเคียฟว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในบางกรณี
โดยในสัปดาห์นี้ การสนับสนุนดังกล่าวอยู่ที่ 30% โดยที่ไม่มีประเทศในแอฟริกา อ่าวเปอร์เซีย หรือกลุ่ม BRICS อยู่ด้วย และมีรัฐบาลละตินอเมริกาเพียง 2 แห่ง คือโคลอมเบียและกัวเตมาลาที่ยืนเคียงข้างยูเครน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคม ทันทีหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสมัชชาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ประเทศสมาชิก 141 ประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 73 ของสหประชาชาติ ได้ลงคะแนนเสียงให้มีการลงมติที่ไม่ผูกมัดเพื่อประณามมอสโก
โดยมีเพียงรัสเซียและประเทศพันธมิตรรัสเซีย ประกอบด้วยเบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือและเอริเทรีย ที่ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว และมีอีก 35 ประเทศที่งดออกเสียง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อคะแนนเสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 ที่ต้องการเพื่อผ่านมติ
โดยสหภาพยุโรปทำงาน หรือ อียู อย่างหนักเพื่อรวมเสียงประเทศสมาชิกทั้ง 27 ประเทศ รวมทั้งโน้มน้าวประเทศอื่นๆ เพื่อลงคะแนนต่อต้านรัสเซีย โดยโอลาฟ สคูก ทูตอียูประจำสหประชาชาติ ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ทั่วโลกต้องการให้รัสเซียยุติการคุกคาม ถอนกองกำลัง และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ
ในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตข้อความยินดีต่อมติดังกล่าว โดยเขาขอบคุณประเทศที่ลงคะแนนสนับสนุนยูเครน และกล่าวว่า ประเทศเหล่านี้ “เลือกข้างที่ถูกต้องในประวัติศาสตร์”