โลกช็อกอีก! สหรัฐส่งทูตประจำUN-รมว.ตปท.ห้ามชาติแอฟริกาให้จีน-รัสเซียช่วยขู่หากดื้อเจอบอมบ์?

0

จากที่วันนี้ 26 สิงหาคม เพจ World Update ได้นำเสนอเรื่องราวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของขั้วอำนาจโลกไว้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฝ่ายจีนรัสเซียที่กำลังรุกฝั่งสหรัฐและพันธมิตร ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างน่าจับตา

ทั้งนี้เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความโดยระบุแหล่งที่มาไว้อย่างน่าติดตาม ซึ่งมีเนื้อหาบางช่วงเปิดเผยไว้ว่า “ ปี ค.ศ.1500 ชนเผ่าแองโกล-แซกซอน จากอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส ฯลฯ อพยพย้ายถิ่นฐานจากยุโรป ไปทวีปอเมริกากลาง รุกรานแย่งชิง ทำสงครามปล้น บังคับซื้อดินแดนด้วยเงิน จากชนพื้นเมือง

ขณะนั้นมีชนพื้นเมืองดั้งเดิมเผ่าอินเดียนแดง ราว 5 ล้านคน เมื่อเผ่าใดไม่ยินยอมแต่โดยดีก็ใช้ “อาวุธชีวภาพ” ที่โด่งดังคือ “โรคฝีดาษ” ทำให้ช่วงนั้นชาวอินเดียนแดงเสียชีวิตจากโรคระบาดไปจำนวนมาก

จนประชากรเผ่าอินเดียนแดงลดลงอย่างมาก (ปัจจุบันเหลือแค่ 250,000 คน) เมื่อกดหัวชนพื้นเมืองได้แล้วชาวยุโรปเหล่านั้น ก็ทำสงครามกันเอง กว่าจะรวมชาติกันได้ก็ทำสงครามกันจนอ่วมไปตามๆ กัน ต่อมาปี 1776 รัฐต่างๆ รวมกันเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา

จากวันนั้นเวลาผ่านไป 243 ปีถึง 2019 มีรายงานการศึกษาเรื่อง “การเริ่มต้นโครงการแทรกแซงทางทหาร : ชุดข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ปี 1776-2019” ระบุว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้ทำสงครามรุกรานประเทศอื่นที่อ่อนแอกว่ามาตลอด ก่อสงครามใหญ่มาแล้วเกือบ 400 ครั้ง

โดยเฉพาะช่วงแค่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ได้ทิ้งระเบิดและยิงขีปนาวุธใส่เด็ก ผู้หญิง คนชรา เฉลี่ย 46 ลูกต่อวัน “ทุกวัน” โดยอ้างว่าต้องสังหารหมู่ชีวิตผู้คนทั่วโลกหลายล้านคนเพื่อ “ปกป้องสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและปกป้องประชาธิปไตย” ซึ่งขัดกับการกระทำล้างผลาญชีวิตคนบริสุทธิ์

การทำสงครามของสหรัฐจึง “ไม่มีจุดสิ้นสุด” เพื่อจุดมุ่งหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมอาวุธทางทหาร สงครามที่เกิดขึ้นทั่วโลก สหรัฐฯ จงใจวางแผนทำและคำนวณเพื่อเพิ่มยอดขายอาวุธถึงสูงสุด เป็นการสมรู้ร่วมคิดระหว่างบริษัทผู้ผลิตอาวุธ และผู้กำหนดนโยบายต่างประเทศที่เข้าไปถือหุ้นในการส่งเสริมผลักดันให้เกิดสงคราม

ต้นเดือน สิงหาคม ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ได้เดินทางเยือนยูกันดา และกานา  พร้อมกับข่มขู่ประเทศในแอฟริกาว่าห้ามพวกเขาไม่ให้ค้าขายอย่างเป็นธรรมหรือรับความช่วยเหลือจากรัสเซีย ไม่งั้นจะเจอดี

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนแอฟริกาใต้ คองโก และรวันดา เช่นกัน กดดันบังคับขู่เข็ญให้ลดความสัมพันธ์ระหว่างแอฟริกากับจีนและรัสเซีย ไม่งั้นจะเจอดีแบบโซมาเลีย ที่สหรัฐทิ้งระเบิดใส่มา 3 รอบแล้วฐานมีความสัมพันธ์กับรัสเซีย-จีน”