วิ่งสู้ฟัด!! หอการค้ายืนยันศก.เดินหน้าต่อได้ แม้นายกฯหยุดงาน นักวิชาการมั่นใจ GDP โตได้ ๓-๓.๕%

0

นายกฯหยุดงานรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน1เดือน ภาคเอกชนมองไม่มีผลต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากการส่งออก-ท่องเที่ยวยังพยุงเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง มั่นใจ GDPโต ๓-๓.๕%

วันที่ ๒๕ ส.ค.๒๕๖๕ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเพื่อรอวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง ๘ ปี ที่คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ไม่มีผลต่อการทำงานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีรักษาการดูแล การดำเนินนโยบายต่างๆยังคงทำได้ตามปกติ เพียงแต่จะไม่มีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ยังคงมีสัญญาณที่ดีจากภาคการส่งออกที่คาดว่าในปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ ๖-๘ นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้าประเทศไทยตามเป้าหมาย ส่งผลต่อรายได้ในช่วงปลายปีให้ขยายตัวมากขึ้น การปรับค่าแรงขั้นต่ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจะเป็นตัวเพิ่มกำลังซื้อให้กับภาคประชาชน ในขณะที่พืชผลทางการเกษตรในช่วงไตรมาสที่ ๔ ผลผลิตจะออกมากตามฤดูกาลทำให้รายได้ของภาคเกษตรสูงขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ ๔ ส่งผลให้ทั้งปีเศรษฐกิจไทยจะยังอยู่ในกรอบร้อยละ ๓.๐-๓.๕ ได้ โดยไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ ๓

อย่างไรก็ตามหลังจากพ้นช่วง ๑ เดือนที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้ว จะต้องมีการพิจารณาว่าคำวินิจฉัยจะออกมาในรูปแบบใด และจะมีผลให้การทำงานของรัฐบาลเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองนอกสภาจะออกมาในรูปแบบใด แต่หากไม่มีความรุนแรงและยังชุมนุมอยู่ในกรอบเชื่อว่าจะไม่มีผลต่อทั้งการท่องเที่ยวการลงทุนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า แม้นายกฯจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการพิจารณาต่างๆของรัฐบาลก็ยังมีมติต่อไปได้ ช่วงนี้คงมีการมองหลายแนวทาง ทั้งนายกฯรักษาการ หรือคนที่จะมาเป็นนายกฯแทน หรือการยุบสภาตามที่หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ เชื่อว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่น และเสถียรภาพของรัฐบาลบ้าง แต่หลายเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งเรื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจ การเป็นเจ้าภาพเอเปกก็สามารถจัดได้

“ช่วงนี้คงมีการมองหลายแนวทางว่า จะออกมาในมุมไหน ทั้งรักษาการนายกฯ หรือคนที่จะมาเป็นนายกฯแทน หรือการยุบสภา ตามที่หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ในส่วนนี้ เชื่อว่าน่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของรัฐบาลบ้าง แต่หลายๆเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งเรื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการเป็นเจ้าภาพ APEC ก็สามารถจัดได้ต่อไป”

อย่างไรก็ตามในส่วนภาคเอกชนคงเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป แต่อาจจะมีบางส่วนที่รอความชัดเจน สิ่งสำคัญคือ การเร่งสร้างความเชื่อมั่น และความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทย ซึ่งในช่วง ๔ เดือนที่เหลือของในปีนี้ และปีหน้าที่สำคัญมากๆ เพราะการท่องเที่ยวและการส่งออกกลับมาแล้ว และผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาไม่กระทบต่อทั้ง๒ ด้าน ในเบื้องต้นภาคเอกชนยังมองกรอบการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ อยู่ที่ ๒.๗๕-๓.๕% เหมือนเดิม