จากที่หลายประเทศคว่ำบาตรรัสเซีย แต่กลับส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อน ประชาชนเจอภาวะค่าครองชีพสูง ขาดแคลนพลังงานก๊าซ และน้ำมันเป็นอย่างมาก
ล่าสุดวันนี้ 25 สิงหาคม 2565 เพจ World Update ได้เผยแพร่เนื้อหาถึงสถานการณ์อีกหนึ่งประเทศไว้อย่างน่าสนใจเป็นบางช่วงว่า “จากกรณีบัลแกเรีย อดีตสหภาพโซเวียต หลงเชื่อสหรัฐ และคำสั่งสหภาพยุโรปให้คว่ำบาตรรัสเซีย หนุนอาวุธเก่ายุคโซเวียตให้ยูเครน แล้วสหรัฐ จะมายืนเคียงข้างเสมอ รับประกันความมั่นคง ไม่ต้องกลัวรัสเซียนั้น
บัลแกเรียหลงเชื่อจึงเบี้ยวชำระค่าก๊าซบริษัท Gazprom รัสเซียเป็นเงินรูเบิล จึงถูกรัสเซียตัดก๊าซมาตั้งแต่ปลาย เมษายนเป็นต้นมา ต้องระหกระเหินไปขอซื้อก๊าซที่ Lukoil รัสเซียถือหุ้นใหญ่จากอาร์เซอร์ไบจานประมาณ 2 ใน 3 ของความต้องการใช้
ส่วนที่เหลือสั่งซื้อจากยี่ปั้วตลาดเปิดที่โดนโขกสับราคาสัญญาระยะสั้นไป 2,800 ดอลลาร์/พันคิวบิกเมตร แม้จะลองแก้ปัญหาลงทุนเชื่อมต่อระบบท่อก๊าซกับกรีซ อีกทางแต่ก็ไม่รอดเพราะก๊าซที่ผ่านทางนั้นยังขาดแคลนไม่เสถียรเหมือนรัสเซีย และราคาแพงเกินไปกว่า 14 เท่าที่ซื้อรัสเซียโดยตรงตามสัญญาเดิม
จนนายกรัฐมนตรีคิริล เพตคอฟ โปรสหรัฐ กระเด็นหลุดเก้าอี้ไปพร้อมคณะรัฐมนตรี แล้วยูเทินกลับขอซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย ทางท่าเรือทะเลดำตุนขนานใหญ่อีกครั้งเหมือนที่โรมาเนีย เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ ก็ทำเหมือนกัน
ส่วนสหรัฐ ที่เคยรับประกันว่าจะมายืนเคียงข้าง แม้บัลแกเรียจะทุ่มซื้ออาวุธสหรัฐเพิ่มก็ยืนจริงแต่ยืนดูเฉยๆ เท่านั้น ประเมินแล้วคงไม่รอดฤดูหนาวนี้แน่ อีกทั้งใกล้จะเลือกตั้งใหม่ แต่ดูท่าฝ่ายรัฐบาลคงแพ้เพราะสร้างหายนะทางเศรษฐกิจไว้มาก อัตราเงินเฟ้อสูง ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก
สัญญาซื้อขายก๊าซเดิมกับ Gazprom ที่ชะงักไประหว่างบัลแกเรียกับรัสเซีย กำลังจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นปีนี้ รัสเซียก็กดดันหนักโดยลดปล่อยก๊าซผ่านท่อ Nordstrem1 เหลือ 20% และแจ้งปิดซ่อมบำรุงเป็นเวลา 3 วันปลายเดือน สิงหาคม นี้ ทำให้บรรดาชาติยุโรปยิ่งวิตกกินไม่ได้นอนไม่หลับ หลอนว่ารัสเซียจะแก้แค้นการคว่ำบาตรของ EU ที่ไม่เป็นมิตร
ทำให้บัลแกเรีย ถูกสหรัฐ และ EU ลอยแพให้เผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงานจนหนักเกินยากจะทนอึดต่อไหว เนื่องจากบัลแกเรียเคยพึ่งพาก๊าซรัสเซียมากถึง 90% สุขสบายมาทั้งชีวิตไม่เคยลำบากยากแค้นขนาดนี้มาก่อน
ล่าสุดนายรอสเซน ฮริสตอฟ รัฐมนตรีพลังงานของบัลแกเรีย แถลงข่าวยอมรับว่า “ด้วยความต้องการของภาคธุรกิจ และสหภาพแรงงานต่างๆ ในประเทศ จึงจะขอเปิดการเจรจากับ Gazprom เพื่อขอให้ส่งก๊าซอีกครั้ง
เราคงต้องหันกลับไปหารัสเซียแล้วในตอนนี้ และการเจรจาก็คงจะยากลำบากมาก” ยังไม่ถึงฤดูหนาวยอมขอใช้เงินรูเบิลรัสเซียเสียแล้ว และด้วยค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเรื่อยๆ
EU จึงมีแนวคิดให้ชาติสมาชิก 27 ชาติละทิ้งเงินยูโร กลับไปใช้เงินสกุลประจำชาติตนเองได้ แต่บัลแกเรีย มีรายชื่อในบัญชีดำชาติไม่เป็นมิตรรัสเซียและผิดเงื่อนไขชำระเงินก่อน การเจรจาอาจต้องนานสักหน่อย ราคาเดิมคงไม่ได้แล้ว อย่างน้อยๆ ก็ต้องอิงราคาตลาดโลกแพง 14 เท่า”