สัญญาณความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนส่อเค้าตึงเครียดมากยิ่งขี้น นับตั้งแต่สหรัฐโดยนางแนนซี่ เปโลซี ประธานสภาสหรัฐฯเหยียบเส้นสีแดงของจีน เยือนไต้หวันอย่างท้าทาย เมื่อจีนแสดงการตอบโต้ทางทหารและเศรษฐกิจสหรัฐยิ่งท้าทายกลับต่อเนื่องโดยส่งตัวแทนรัฐสภา และระดมพันธมิตรส่งตัวแทนมาเยือนไต้หวันถี่ขึ้นต่อเนื่องขึ้น เราจึงได้เห็นการขับเคี่ยวทางเศรษฐกิจ ภาคการเงิน การค้าดุเดือดยิ่งกว่าเดิม แต่ในระยะเฉพาะหน้าข้อเท็จจริงที่เปิดเผยปรากฎว่า จีนยังคงเดินหน้าค้าขายกับคู่ค้าเก่าอย่างยุโรปได้เป็นกอบเป็นกำ และได้ลูกค้าใหม่อย่างกลุ่มบริกส์มาเสริม รวยรับทรัพย์อู้ฟู้ เรื่องนี้สหรัฐและพวกไม่ปลื้มเท่าใดนัก ไม่ว่าจะออกไม้ไหน จีนสวนกลับเนียนๆได้ถูกครั้ง โลกจึงได้เห็นความใกล้ชิดระหว่างจีนและรัสเซียรวมทั้งพันธมิตรตะวันออกยกระดับมากขึ้นในทุกมิติ ยกนี้สหรัฐและพันธมิตรส่อแววแพ้แต่อะไรก็ยังไม่แน่นอนเพราะสงครามเพิ่มเริ่มต้น!?
วันที่ ๒๔ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศุลกากรเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน เปิดเผยว่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างเซี่ยงไฮ้กับสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ซึ่งเป็นคู่ค้าต่างแดนรายใหญ่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้ ในช่วง ๗ เดือนแรกของปี ๒๕๖๕ มีมูลค่าแตะ ๔.๕ แสนล้านหยวนประมานราว ๒.๓๘ ล้านล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ ๐.๒ เมื่อเทียบปีต่อปี
ตัวเลขดังกล่าวครองสัดส่วนร้อยละ ๑๙.๗ ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของเซี่ยงไฮ้ โดยปริมาณการนำเข้าและส่งออกรวมของเซี่ยงไฮ้ ในช่วง ๗ เดือนแรก อยู่ที่ ๒.๒๘ ล้านล้านหยวน ราว ๑๒.๐๑ ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๐๓ เมื่อเทียบปีต่อปี
การส่งออกของเซี่ยงไฮ้ไปยังสหภาพยุโรป แตะ ๑.๖๒ แสนล้านหยวนคิดเป็นเงินไทย ๘.๕๕ แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๒.๕ เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะการนำเข้าจากสหภาพยุโรปมีมูลค่าถึง ๒.๘๘ แสนล้านหยวน ราว ๑.๕๒ ล้านล้านบาท ลดลงร้อยละ ๙.๖ เมื่อเทียบปีต่อปี
ทั้งนี้ การนำเข้าและส่งออกสู่เยอรมนีและฝรั่งเศส มีมูลค่า๑.๔๐ แสนล้านหยวนราว ๗.๓๘ แสนล้านบาท และ ๕.๓๘ หมื่นล้านหยวน ราว ๒.๘๓ แสนล้านบาท ตามลำดับ ลดลงร้อยละ ๔.๑ และร้อยละ ๑๒.๑ เมื่อเทียบปีต่อปี ส่วนการนำเข้าและส่งออกสู่อิตาลี อยู่ที่ ๖.๐๘ หมื่นล้านหยวน ราว ๓.๒๐ แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑.๔เมื่อเทียบปีต่อปี
ขณะเดียวกันการนำเข้าและส่งออกของเซี่ยงไฮ้ไปยังเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม อยู่ที่ ๔.๖๐ หมื่นล้านหยวน ราว ๒.๔๒ แสนล้านบาท และ ๒.๘๐ หมื่นล้านหยวนราว๑.๔๘ แสนล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓.๔ และร้อยละ ๓๙.๒ เมื่อเทียบปีต่อปี
ในขณะที่สหรัฐและอังกฤษเปิดเผยท่าทีต่อต้านจีนอย่างโจ่งแจ้ง จีนกลับค้าขายกับตะวันตกรับทรัพย์อู้ฟู่ ปรากฏการณ์เช่นนี้จะมองว่า ภาคธุรกิจกับภาครัฐแยกกันไม่มีผลต่อกันนั้นคงไม่ถูกต้องเสียทีเดียว ด้านการเมืองเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่ความขัดแย้งจะถึงจุดแตกหักมีการเคลื่อนไหวอย่างเดือดระอุในหลายกรณี แต่ด้านเศรษฐกิจความเกี่ยวพันธ์ในห่วงโซ่อุปทานภาคการผลิตของโลกยังไม่อาจตัดขาดกันได้ง่ายๆในเร็ววัน แม้สหรัฐจะพยายามงัดมุกกีดกัน ตั้งกลุ่มต่อต้านมาหลายกลุ่มแล้วก็ตาม ผลที่เห็นเป็นรูปธรรมจีนกลับยิ่งค้าขายเอารวยเอา นอกจากจะรับทรัพย์จากยุโรปแล้ว ในกลุ่มบริกส์ก็ไม่น้อยหน้ายอดการค้าพุ่งกว่า ๒๐%สุดที่อเมริกาจะขัดขวางได้
ศุลกากรนครเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน ได้เปิดเผยมูลค่าการค้าสินค้าของเซี่ยเหมินกับกลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS) อยู่ที่ ๔๗,๙๐๐ ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยราว ๒.๕๓ แสนล้านบาท ในช่วง ๗ เดือนแรกของปี ๒๕๖๕ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐.๗ จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยบริกส์ซึ่งเป็นตัวย่อของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้
มูลค่าการส่งออกของเซี่ยเหมินกับกลุ่มประเทศบริกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ๒๘.๑ อยู่ที่ ๑.๕๓หมื่นล้านหยวน ราว ๘.๐๘ หมื่นล้านบาท ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๗.๕ อยู่ที่ ๓.๒๖ หมื่นล้านหยวน ราว ๑.๗๒ แสนล้านบาท เมื่อเทียบปีต่อปี
มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเซี่ยเหมินกับรัสเซีย แอฟริกาใต้ และบราซิล อยู่ที่ ๑.๔๘ หมื่นล้านหยวน (ราว ๗.๘๑ หมื่นล้านบาท), ๗.๓ พันล้านหยวน (ราว ๓.๘๕ หมื่นล้านบาท)และ ๑.๕๗ หมื่นล้านหยวน (ราว ๘.๒๙ หมื่นล้านบาท)ตามลำดับ ในเดือนมกราคม-กรกฎาคม ๒๕๖๕โดยเพิ่มขึ้น ๒๙.๘% , ๒๕.๔% และ๒๓.๓% ตามลำดับ เมื่อเทียบปีต่อปี
สินค้านำเข้าหลักในช่วงเวลา๗ เดือนแรกได้แก่ แร่โลหะ แร่หนัก สินค้าเกษตร ถ่านหิน และลิกไนต์ ขณะการส่งออกส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ที่ใช้แรงงานเข้มข้น
ในขณะที่จีนรับทรัพย์จากลูกค้ากระเป๋าหนัก ปักกิ่งกลับใช้เงิน ๓๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ซื้อน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมัน ก๊าซและถ่านหินของรัสเซียตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕
การซื้อน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมัน ก๊าซและถ่านหินของรัสเซียของปักกิ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ ๒๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นในขณะที่จีนได้ประโยชน์จากส่วนลดการส่งออกพลังงานของรัสเซีย ซึ่งเป็นราคาที่ดึงดูดผู้ซื้อรายใหม่ หลังจากที่รัฐทางตะวันตกหลายแห่งเริ่มหลีกเลี่ยงสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซียเนื่องจากการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับยูเครน สถานการณ์เช่นนี้ยิ่งผลักดันให้พันธมิตรจีน-รัสเซียใกล้ชิดกันมากขึ้น
