หลังจากที่จีนมีความตึงเครียดกับทางไต้หวัน และสหรัฐฯ จนนำมาสู่การแบนสินค้าไต้หวัน ที่จีนห้ามส่งออกมาในประเทศ ทำให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์ไปด้วย ซึ่งทางหอการค้าไทย มองประเด็นของจีน-ไต้หวัน ว่าไทยจะได้รับอานิสงส์ เนื่องจากจีนประกาศแบนสินค้ากว่า 2,000 รายการ ที่ไม่ให้ไต้หวันส่งออกมาจีน จะเป็นโอกาสดี ที่จีนจะดึงไทย ทำเงินทางการค้าแทน
ล่าสุดสัมพันธ์อันดีของทั้งไทย-จีน ยังคงแน่นแฟ้นมากกว่าเดิม เมื่อมีรายงานยอดด้านการท่องเที่ยวและการบิน ที่จีนขอเพิ่มเที่ยวบินเข้ามายังไทยให้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤติโควิดด้วย
โดยในเฟซบุ๊กของดร.สมเกียรติ โอสถสภา ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ข่าวดี จีนขอเพิ่มเที่ยวบินมาไทย มากกว่าเดิม 5 เท่า จากที่เคยบินมาสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ขอเพิ่มเป็น 15เที่ยวบิน CAAC หน่วยงานบริหารการบินขอจีนทำหนังสือขอมา สื่อฝรั่งคาดว่าจำนวนคนจีนที่จะบินมาไทยจะกลับสู่ระดับเดิม โดยเร็ว
ตอนนี้จัดให้แก่ business trip และการเดินทางที่จำเป็นก่อน อ้างอย่างนั้น ไม่ให้ชาติอื่นอิจฉา ช่วงพีคสุดจีนขอบินมาไทยสัปดาห์ละ 100 เที่ยวบิน การเดินทางมาไทยเนี่ยจำเป็นมาก มันไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ เข้าใจนะ
สิ่งแรกที่คนจีนจะทำคือไปพบญาติ พบคนในครอบครัว การลงทุนของจีนกำลังมา การค้ากำลังมา การท่องเที่ยวมาแล้ว จะกลับมาเดือนสัปดาห์ละร้อยเที่ยวบินในไม่ช้า รู้จากการเติบโตของไผ่ ก่อนที่ไผ่จะโตอย่างเร็ว.หนึ่งเมตร เหนือแผ่นดิน มันฝังรากชอนไชไปในดินหลายร้อยเมตร ช้านาน ไม่พูดเยอะ ยิ้มมุมปากนิดนึง เรื่องของเรา มองตาก็เข้าใจ ไม่ต้องพูดข่าวดีตอนเช้าครับ”
นอกจากนี้ก็มีรายงานด้วยว่า กพท.เตรียมเพิ่มเที่ยวบินไทย-จีน 15 ไฟลต์/สัปดาห์ จะเริ่มให้บริการในเดือนก.ย.นี้ และในแต่ละมณฑลของจีนอาจจะมีการพิจารณามาตรการ ผลักดันให้คนจีนมาเที่ยวไทยมากขึ้น เพราะมีการผ่อนคลายมาตรการและเห็นสัญญาณที่ดีหลายเรื่อง เช่น
1.มาตรการกักตัวขากลับประเทศจีน จากเดิม 21 วัน ปัจจุบันลดลงเหลือ 10-14 วัน
2.มาตรการคุมเข้มการเดินทางระหว่างประเทศสำหรับสายการบิน ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีโอกาสเพิ่มเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากจีนมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี
3.สำนักงาน ททท.ในประเทศจีน รายงานมาว่า รัฐบาลกลางของจีนมีแนวโน้มจะให้รัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละมณฑลเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะ “เปิดเมือง” หรือ “เปิดพรมแดน” หรือไม่ ทาง ททท.เตรียมหารือกับในบางมณฑล ขณะเดียวกันก็ได้รับการติดต่อจากบางมณฑลเช่นกันว่าอยากจะพูดคุยเกี่ยวกับความมั่นใจและความปลอดภัย หากรัฐบาลกลางให้อำนาจแก่รัฐบาลท้องถิ่นในการพิจารณา “เปิดประเทศ”
