สหรัฐช็อค! เปิดกำไรส่งออกน้ำมันดิบรัสเซีย หลังยุโรปแห่ซื้ออื้อ-พ่วงกำไร 2ต่อ! แถมยังช่วยโลกลดภาษีส่งออก
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ก๊าซพรอม (Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า จะปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีม 1 (NS1) อีกครั้งเป็นเวลา 3 วันในช่วงสิ้นเดือนนี้ เพื่อดำเนินการบำรุงรักษา
ล่าสุดทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ สหรัฐ ยูเครน รู้ยัง! ยุโรปแห่ซื้อน้ำมันดิบรัสเซียกันใหญ่แล้วดันเงินคลังท่วมประเทศ โดยอ้างอิงจากสำนักข่าว Bloomberg LP ระบุว่า เดิมที่สหภาพยุโรป (EU) พึ่งพาน้ำมันดิบจากรัสเซียในสัดส่วน 26.9% ต่อมาอยากลองของมหาอำนาจใหม่ จึงคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียว่าจะไม่ซื้อ
แต่จากการตรวจสอบล่าสุด ส.ค.2022 การขนส่งน้ำมันดิบส่งออกของรัสเซียยังเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แถมการส่งออกทางทะเลไปยังผู้ซื้อในยุโรปเพิ่มขึ้นกว่าเดิมสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย เนื่องจากโรงกลั่นบางแห่งยังคงดำเนินการแปรรูปต่อไปไม่สนใจคว่ำบาตรอะไรทั้งนั้น เมื่อ 19 ส.ค.2022 รัสเซียส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็น 3.41 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมากกว่าก่อนชาติตะวันตกคว่ำบาตร เรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมด 34 ลำบรรทุกน้ำมันรัสเซียออกไป 25.4 ล้านบาร์เรล ข้อมูลการติดตามเรือและรายงานท่าเรือแสดงปริมาณเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล ปริมาณน้ำมันดิบรัสเซียจากท่าเทียบเรือบอลติกของรัสเซียส่งออกพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์
การขนส่งจากท่าเรือโนโวรอสซีสค์ในทะเลดำสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ น้ำมันดิบไหลออกจากคลังน้ำมันทางตะวันออกของรัสเซียดีดตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2 สัปดาห์ก่อน , แสดงหลักฐานว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นคือ “ส่งไปยังยุโรป” โดยจัดส่งไปยังลูกค้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปเหนือ และภูมิภาคทะเลดำ “เพิ่มขึ้นทุกส่วนของยุโรป”
การส่งออกน้ำมันรัสเซียไปยังประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน (ตะวันออกกลาง) ก็เพิ่มขึ้น 140,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้ , เรือบรรทุกน้ำมันลำที่ 3 ของรัสเซียกำลังมุ่งหน้าไปส่งมอบให้ยัง “ศรีลังกา” และขณะนี้ได้ปล่อยเรือน้ำมันอีก 2 ลำจากชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของอียิปต์ไปศรีลังกา แม้จะล้มละลายทางเศรษฐกิจ และเป็นหนี้เงินสดรัสเซียก็ขายน้ำมันให้,แม้แต่รัฐบาล “อัฟกานิสถาน” ก็ยังซื้อน้ำมันดิบกว่า 1 ล้านบาร์เรล , น้ำมันดิบรัสเซีย ยังไปยังเอเชียราว 1.71 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ตลาดของซาอุฯ , อิรัก และอิหร่าน จึงไม่แย่งลูกค้ากัน ในขณะที่อินเดียยังคงต้องการใช้น้ำมันของรัสเซียเหมือนเดิม
ส่งผลให้รัฐบาลรัสเซีย นอกจากจะได้ “ปันผลกำไร” จากรัฐวิสาหกิจน้ำมันแล้ว ยังได้กำไรต่อที่สองคือ “ภาษีส่งออกน้ำมันดิบ” ยังคงสูงกว่าก่อนสงครามยูเครน โดยรายได้เฉลี่ย 4 สัปดาห์ดีดตัวขึ้นเป็น 10,500 รูเบิล (ราว 6,125 ล้านบาท/สัปดาห์) , โดยเฉพาะยุโรปเหนือชาติใน EU ปริมาณการขนออกจากรัสเซียช่วง 4 สัปดาห์ ขยับสูงขึ้นเป็น 398,000 บาร์เรล/วัน โดยเฉพาะการขนส่งไปยังถังเก็บน้ำมันในรอตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ มากที่สุด และน้ำมันรัสเซียยังส่งออกไปรวมกันที่บัลแกเรียและโรมาเนีย ในปริมาณสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ส่งผลให้กระแสน้ำมันดิบรวมจากท่าเรือรัสเซียส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 760,000 บาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนสูงขึ้นทุกภูมิภาคส่งออก
ทำให้รัสเซียมีรายรับจากภาษีส่งออกเพิ่มขึ้น 38 ล้านดอลลาร์หรือ 26% เป็น 183 ล้านดอลลาร์/สัปดาห์ ( ราว 25,620 ล้านบาท/เดือน) ความร่ำรวยจากปันผลรายได้ส่งออกบริษัทน้ำมัน และภาษีส่งออกน้ำมันจนเงินท่วมคลัง ทำให้รัสเซีย จะช่วยชาวโลกโดยลดภาษีส่งออกสำหรับการส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 2% ในเดือน ก.ย.2022 นี้
