ไม้ตายสุดท้ายมะกัน ก่อนเปิดฉากสงครามเต็มตัว นำทีมนาโต้ลงนาม ดันรัสเซียเป็น “รัฐก่อการร้าย” ตามแผนที่วางไว้ 10 ปี!
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.65 ทางด้านของสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์ ได้เปิดเผยบทความเชิงวิเคราะห์ของ Robert Bridge นักเขียนและนักข่าวชาวอเมริกัน หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเพื่อกำหนดให้รัสเซียเป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้ายของรัฐ โดยทางฝ่ายนิติบัญญัติกำลังพิจารณาข้อเท็จจริง
ซึ่งทางด้านของ ส.ว.ริชาร์ด บลูเมนธาล และ ส.ว. ลินด์ซีย์ เกรแฮม กำลังเคลื่อนไหวปลุกระดมสมาชิกสภาคองเกรส ให้รวม รัสเซีย ไว้ในรายชื่อ “ผู้สนับสนุนการก่อการร้ายของรัฐ” ของวอชิงตัน ซึ่งปัจจุบันรวมถึงเกาหลีเหนือ อิหร่าน คิวบา และซีเรีย
ในขณะเดียวกันทางด้านรัฐบอลติกของลิทัวเนีย ก็ได้ลงนามในกฎหมายของตนเอง โดยประกาศให้รัสเซียเป็น “รัฐผู้ก่อการร้าย” แล้วในช่วงเดือนพฤษภาคม
แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางด้านของ Robert Bridge ได้แสดงความคิดเห็นในเชิงที่น่าสนใจ โดยได้หยิบยกกองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐฯ หรือนาโต้ ในภารกิจปลดปล่อยซีเรีย จากกลุ่มติดอาวุธซึ่งกระจายกองกำลังของพวกเขาไปทั่วประชากรพลเรือน ส่งผลให้พลเรือนกลายเป็น “โล่มนุษย์” ซึ่งทางด้านของ ยูเครน ได้นำยุทธศาสตร์นี้ของกลุ่มติดอาวุธไปใช้ เพื่อหวังตอบโต้รัสเซีย
ในขณะที่กองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐฯ ได้โจมตีอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเวลา 4 เดือน โดยได้คร่าชีวิตพลเรือนไปจำนวนหลายพันคน ยิ่งตอกย้ำเข้าไปใหญ่เมื่อได้มีการสำรวจความเสียหายบนพื้นดิน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สรุปว่า กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ “ได้เปิดการโจมตีที่มีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนมากเกินไป และล้มเหลวในการแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารกับพลเรือน”
โศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าของสถานการณ์จากมุมมองของรัสเซียคือในขณะที่มอสโกพยายามที่จะสงวนโครงสร้างพื้นฐานและชีวิตมนุษย์ มันถูกตราหน้าว่าเป็น “รัฐผู้ก่อการร้าย” ในขณะที่ยูเครนได้รับสถานะวีรบุรุษเนื่องจากใช้ยุทธวิธีเดียวกันกับที่ทำให้ชีวิตพลเรือน ความเสี่ยงร้ายแรง
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว โศกนาฏกรรมต้องเกิดขึ้น เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่พบว่าตนเองอยู่ในภาวะสงคราม ในที่สุดรัสเซียจะถูกกล่าวหาว่าสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ทว่าการบาดเจ็บล้มตายเหล่านี้รุนแรงขึ้นอย่างมากจากเทคนิคการต่อสู้ของกองทัพยูเครน ซึ่งควรเน้นย้ำว่า ได้รับการฝึกจากกองกำลังนาโตตั้งแต่ปี 2014
โดยแผนที่ยูเครนได้รับการฝึกฝนจากนาโต้นั้น ถือว่าเป็นกลอุบายที่เก่าแก่ที่สุดในหนังสือ ที่ผู้ก่อการร้ายใช้ คือการปรับโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน เช่น โรงพยาบาล โรงเรียนอนุบาล และโรงเรียน เป็นพื้นที่บังหน้าให้กับกองกำลังเสริมทางการทหาร ซึ่งอำนวยความสะดวกให้เป็นเป้าหมายทางทหารสำหรับกองกำลังรัสเซียโดยอัตโนมัติ ซึ่งยูเครนใช้เป็น หลักฐานที่ว่า มอสโกจงใจมุ่งเป้าไปที่พลเรือน กลายเป็นแผนผลักดันให้สหรัฐฯ และพวกลงนามผลักดันรัสเซีย เป็นรัฐก่อการร้าย ได้อย่างชอบธรรม