เอเชียระอุ!! จีนฮึ่มญี่ปุ่นหิวแสง จ่อติดขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลนับ ๑,๐๐๐ ลูก ชนจีน ตามก้นเมกาพาชาติล่มจม

ฮือฮาอีกครั้งเมื่อเกิดกระแสข่าวว่าญี่ปุ่นเตรียมติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกลเผชิญหน้ากับจีนเต็มพิกัดนับพันลูก ขณะที่จีนซัดกลับทันทีว่านี่คือการเปิดวาระซ่อนเร้นของญี่ปุ่นที่ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ ขยายกำลังทหารของตนโดยอ้างสถานการณ์ร้อนไต้หวัน ด้านทางการญี่ปุ่นยังไม่ออกมายืนยัน

ตามรัฐธรรมนูญยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒  ญี่ปุ่นถูกกำหนดให้ปฏิเสธการทำสงคราม และสามารถใช้กองกำลังเฉพาะป้องกันตนเองเท่านั้น แต่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารประเทศกลับยกระดับการใช้จ่ายด้านการทหารและชูยุทธศาสตร์ที่แน่วแน่ในการฟื้นคืนกองกำลังทหารยิ่งกว่าเดิม เดินตามวาระวอชิงตันต้านจีน จะนำประเทศเข้าสู่ชะตากรรมซ้ำรอยอดีต เรื่องนี้ต้องจับตาท่าทีภาคประชาชนของญี่ปุ่นที่เกิดกระแสต่อต้านสงครามเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

วันที่ ๒๒ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า หนังสือพิมพ์โยมิอุริ สื่อญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยอ้างบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับแผนการติดตั้งขีปนาวุธวิสัยไกลเปิดเผยแผนการผลิตและติดตั้งขีปนาวุธของทางการญี่ปุ่นนับ ๑,๐๐๐ ลูก ผู้สังเกตการณ์ฝ่ายจีนกล่าวว่า การตัดสินใจผลิตขีปนาวุธดังกล่าวหากได้รับการยืนยัน ถือเป็นเส้นทางของญี่ปุ่นที่ตั้งธงมาก่อน เป็นจุดเริ่มต้นของโตเกียวที่จะทำลายรัฐธรรมนูญแห่งสันติภาพ โดยพัฒนาอาวุธเพิ่มเติมตรงข้ามกับเจตนารมณ์ที่รัฐธรรมนูญห้ามไว้ 

แหล่งข่าวกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นถูกกำหนดให้ดำเนินการภายในหนึ่งปีจนถึงปีงบประมาณ ๒๐๒๔ ส่วนหนึ่งของแผนการที่จะขยายขอบเขตของขีปนาวุธนำวิถีพื้นผิวสู่เรือประเภทไทพ์-๑๒ (Type-12) ของกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดิน ค่าใช้จ่ายที่จะรวมอยู่ในคำของบประมาณสำหรับปีงบประมาณ ๒๐๒๓

กระทรวงกำลังเสนอของบประมาณมากเป็นประวัติการณ์กว่า ๕.๕ ล้านล้านเยน หรือ ๔ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปีงบประมาณหน้า โดยจำนวนเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากสรุปค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ระบุสำหรับสินค้าประมาณ ๑๐๐ รายการ

 

บลูมเบิร์กและรอยเตอร์ยังรายงานอีกว่า ขีปนาวุธซึ่งมีพิสัย ๕๐๐ ถึง ๕,๕๐๐ กิโลเมตร หรือ ๓๑๐ ถึง ๓,๔๒๐ ไมล์ จะถูกนำไปติดตั้งในหมู่เกาะนันเซและคิวชูเป็นหลัก 

อิทสึโนริ โอโนเดระ หัวหน้าคณะกรรมการวิจัยความมั่นคงแห่งชาติของพรรคเสรีประชาธิปไตย พรรคแกนนำรัฐบาล (Itsunori Onodera, who heads the Liberal Democratic Party’s Research Commission on National Security) กล่าวในรายการฟูจิทีวีเมื่อวันอาทิตย์ว่า “ในฐานะประเทศที่เป็นเกาะ ญี่ปุ่นจะถูกโจมตีจากระยะไกลได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีขีปนาวุธจำนวนหนึ่งเพื่อตอบโต้ศัตรู”

สื่อตะวันตกระบุว่าในการทำเช่นนั้น ญี่ปุ่นกำลังพยายามปิด “ช่องว่างขีปนาวุธ” กับจีนซึ่งมีขีปนาวุธจากทะเล ๓๐๐ ลูกและบนบก ๑,๙๐๐ ลูก และเชื่อมโยงข้อมูลนี้กับการซ้อมรบทางทหารของจีนรอบช่องแคบไต้หวัน หลังจากที่แนนซี่ เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯดื้อดึงเยือนเกาะไต้หวันยั่วยุจีนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มคะแนนความจำเป็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อบรรลุเป้าหมายทางทหาร

ซ่ง จงผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจีนแผ่นดินใหญ่ (Song Zhongping, a Chinese mainland military expert) กล่าวว่า ญี่ปุ่นได้ส่งเสียงโห่ร้อง เกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถในการโจมตีไปยังดินแดนต่างประเทศ และวิธีหนึ่งที่จะเพิ่มขีดความสามารถดังกล่าวคือการเพิ่มจำนวนขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล 

สิ่งที่น่าสังเกตคือญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะติดตั้งขีปนาวุธล่องเรือระยะไกลที่สามารถโจมตีเป้าหมายทางบกบนเรือพิฆาตเอกิส (Aegis) ที่ติดตั้งระบบใหม่ตามการรายงานของสื่อตะวันตก

ซ่ง กล่าวว่า “ข้อมูลนี้เผยให้เห็นว่าญี่ปุ่นมีความทะเยอทะยานที่จะสร้างอำนาจทางทหารมาเป็นเวลานาน เขากล่าวว่าแม้ขีปนาวุธพิสัยไกลจำนวนนับพันลูกจะเป็นเพียงตัวเลข โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ญี่ปุ่นต้องการแสดงให้เห็นว่ามีขีดความสามารถในการผลิตขีปนาวุธพิสัยไกลจำนวนมาก และสามารถทำได้ตามความต้องการ” 

โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นในขณะนั้นกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเกียวโดนิวส์ (Kyodo News) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า กระทรวงจะดำเนินการหารือเกี่ยวกับแผนการที่จะผลักดันให้ญี่ปุ่น ได้มาซึ่งความสามารถในการโจมตีฐานของศัตรู แทนที่อดีตมีนโยบายเน้นการป้องกันโดยเฉพาะมาเป็นเวลานานภายใต้รัฐธรรมนูญหลังแพ้สงคราม 

ซ่งกล่าวว่า “กองกำลังทางการเมืองที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังชนะได้ที่นั่ง ๒ ใน ๓ ของรัฐสภาญี่ปุ่น

การเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นต้องการการสนับของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ก็ต้องการความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นในการปกป้องความเป็นเจ้าโลกของตน พุ่งเป้าต้านจีนในเอเชีย-แปซิฟิก  ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่ญี่ปุ่นจะฝ่าฝืนนโยบายเฉพาะด้านการป้องกันประเทศไปเป็นสะสมอาวุธเพิ่มกำลังทหารแทน” 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารยังกล่าวด้วยว่า ศักยภาพการติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกลเป็นเพียงขั้นตอนแรกสำหรับญี่ปุ่น เพื่อในอนาคต ญี่ปุ่นจะสามารถต่อยอดพัฒนาขีปนาวุธนำวิถี เรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ และแม้แต่เรือบรรทุกเครื่องบินต่อเนื่อง เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญประสบผลตามความมุ่งหมาย