จากที่อังกฤษร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย จนนำมาซึ่งแรงกดกันให้นายกฯลาออก เพราะภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างสาหัส กระทั่งมีการชุมนุมประท้วง รวมทั้งการนัดหยุดงานครั้งสำคัญด้วย
ล่าสุดวันนี้ 22 สิงหาคม 2565 เพจ World Update ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ผ่านการโพสต์ข้อความที่ระบุแหล่งที่มาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนดังนี้
“นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เตือนประชาชนผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า “ชาวอังกฤษหลายล้านคนอาจมีอาหารและความร้อนไม่เพียงพอในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง เนื่องจากราคาก๊าซพุ่งขึ้น” เงื่อนไขวิกฤติจุดชนวนความไม่พอใจคล้ายช่วงท้ายของดัชเสื่อมอำนาจ
ขณะที่เกิดการประท้วงหยุดงานช่วงฤดูร้อนโดยสหภาพพนักงานรถไฟและรถไฟใต้ดิน เพราะผลเจรจาเรื่องค่าจ้างล้มเหลว มีเพียง 1 ใน 5 ของรถไฟในสหราชอาณาจักรที่วิ่งในวันเสาร์ การหยุดงานยังเกิดเป็นระยะ รถไฟใต้ดินของลอนดอนส่วนใหญ่ไม่ทำงาน มีการนัดหยุดงานของพนักงานไปรษณีย์ ทนายความ พนักงานโทรคมนาคม British Telecom และคนงานเก็บขยะ ต่างพากันประกาศหยุดงานในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้
ยามสภาพเศรษฐกิจดิ่งเหวตกต่ำอะไรก็หยุดไม่อยู่ ล่าสุดท่าเรือขนส่งสินค้าเฟลิกซ์สโตว์ในซัฟโฟล์คที่ใหญ่ที่สุด อยู่ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 150 กิโลเมตร
ท่าเรือนี้รองรับตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 4 ล้านตู้/ปี จากเรือ 2,000 ลำ ประมาณ 35% หรือราว 45,000 ตู้คอนเทนเนอร์/สัปดาห์ ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า และอาหารกระป๋อง ทั้งหมดของอังกฤษ และส่วนแบ่งการค้าโดยตรงกับเอเชีย และเกือบ 50% ของค่าขนส่งขาเข้าของอังกฤษได้จากท่าเรือนี้
โดย ชารอน เกรแฮม เลขาธิการของสหภาพแรงงาน Unite ระบุว่าบริษัทดำเนินการท่าเทียบเรือที่ “มีกำไรมหาศาล 61 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า” และบริษัทแม่ CK Hutchison Holding Ltd ให้ความสำคัญกับ “ผลกำไรของผู้ถือหุ้นมากกว่าสวัสดิการแรงงาน”
พวกเขาสามารถให้ค่าจ้างแก่คนงานเฟลิกซ์สโตว์ได้ แต่ชัดเจนว่าทั้ง 2 บริษัทให้ความสำคัญกับการส่งผลกำไร และเงินปันผลหลายล้านปอนด์ให้ผู้ถือหุ้นมากกว่าการจ่ายค่าจ้างให้คนงานอย่างเหมาะสม โดยคนงานประจำได้รับการเสนอให้ขึ้นเงินเดือนโดยเฉลี่ย 7% พร้อมโบนัสแค่ 500 ปอนด์ แต่คนงานรายชั่วโมง 85% ของคนงานทั้งหมดไม่ได้อะไรเลย ขัดแย้งกับอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะถึง 13.1% เมื่อสิ้นปี
ดังนั้นเพื่อตอบโต้ทางสหภาพแรงงาน “คนงานเกือบ 2,000 คน จึงนัดหยุดงาน 8 วัน” ช่วง 21-28 ส.ค.2022 เพื่อให้ทางบริษัทมาเจรจา จึงจะทำให้ตู้คอนเทนเนอร์สินค้าราว 90,000 ตู้ตกค้างยาว ถ้าเป็นสินค้ามีอายุหรือต้องควบคุมอุณหภูมิก็เน่าเสียไปทั้งหมด
สินค้าที่เปราะบางควบคุมสภาพแวดล้อมพวกชิปคอมพิวเตอร์ก็จะเสื่อมคุณภาพ ฯลฯ ทำให้เกิดความโกลาหลของสินค้ามหาศาลชะงักนิ่ง ส่งผลกระทบต่อ Supply chain อย่างรุนแรงขัดขวางกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมทั่วสหราชอาณาจักรร้ายแรงประเมินมูลค่าความเสียหายย่อยยับยังไม่ได้
รัสเซีย กำลัง ทำสงครามเย็น แสดงอำนาจด้านพลังงานว่าสามารถพลิกชะตาอังกฤษที่เคยรุ่งเรือง ให้พังทลายล้มคลืนจากภายในได้ โดยใช้ความเดือดร้อนจากชาวอังกฤษเองเป็นเชื้อเพลิงความโกรธแค้น
ฤดูหนาวนี้เมื่อรัสเซียมีเปรียบสูงสุดเขาจะตัดพลังงาน กระตุ้นความเดือดร้อนขึ้นไปอีก จนนำไปสู่การจลาจลทุกหย่อมหญ้าเป็นโดมิโน่ มหาอำนาจโลกจะเปลี่ยนมือ เมื่อเวลาผ่านไป ไม่มีใครอยู่ยั่งยืนยง คิวต่อไปใครเรียงหน้าเข้ามารัสเซียรอทุบซ้ำอยู่”