ยุโรปหมดแรง! รัสเซียยึดแหล่งทรัพยากรยูเครนเหลือแค่ 1ใน3 เปิดชื่อ 5 แคว้นแยกเอกราชแล้ว

0

จากกรณีกองทัพรัสเซียได้เข้าบุกยึดเมืองในแคว้นต่างๆได้หลายเมือง จนนำมาซึ่งการทำประชามติขอแยกออกจากยูเครน และดูเหมือนว่าสถานการณ์ย่ำแย่ยิ่งขึ้น เมื่อหลายเมืองยังคงทยอยเข้ากับฝ่ายรัสเซียด้วย

โดยในวันนี้ 22 สิงหาคม เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความระบุที่มาจาก The Washington Post และ กลาโหมรัสเซีย ถึงเหตุการณ์ในยูเครนบางช่วงที่สำคัญมีเนื้อหาว่า

“แค่ยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวกลางเดือนตุลาคม แต่สถานขาดแคลนพลังงานและแร่ธาตุจนราคาแพงขึ้นลิบลิ่วในยุโรปจนเกิดวิกฤติระส่ำระสายมานานหลายเดือนแล้ว ทำให้เผยจุดอ่อนยุโรปออกมา ยิ่งทำให้รัสเซียปฏิบัติการทางทหารในยูเครนแบบ ยื้อเกมส์บีบให้สหรัฐ ยุโรป ส่งเงินและอาวุธมาให้ยูเครน แล้วรัสเซียก็รอรวบถล่มคลังอาวุธนั้นเสียตัดกำลังตะวันตกให้กองทัพอ่อนแอ

ล่าสุดวันที่  20 สิงหาคม 2022 กองทัพรัสเซียมาแปลก ยิงขีปนาวุธมาจากฐานทัพในแคว้นเบลโกรอดรัสเซีย ระยะทางประมาณ 100 กม. ข้ามชายแดนมาถล่มที่ตั้งทางทหารรับจ้างต่างชาติ และอาวุธยูเครนที่ส่งมาจาก NATO ในแคว้นคาร์คิฟ ตะวันออกยูเครน

ทางการรัสเซีย ยังแต่งตั้งคนของตัวเองให้เป็นหัวหน้าแคว้นคาร์คิฟ ในเขตพื้นที่ถูกรัสเซียยึดครองอีกด้วย สัญญาณแบบนี้แสดงถึงว่าแคว้นนี้ไม่รอดจากการแยกเอกราชจากยูเครน ต่อจากลูฮันสก์  โดเนตสก์ เคอร์ซอน ซาโปริชเซีย แน่นอน

ส่วนแคว้นทางใต้ชายทะเลคาดว่ารัสเซียจะบุกหนักในช่วงฤดูหนาว เพราะรัสเซียชอบรบฤดูอากาศหนาวจัดและมีความพร้อมทางอุปกรณ์ป้องกันความหนาวมากกว่ายูเครน ที่ต้องรอแบมือขอเงินจากชาติตะวันตกอีกที

ยูเครนมีพื้นที่แร่ธาตุและโลหะที่ใช้กันอย่างแพร่หลายถึง 117 ชนิดจาก 120 ชนิด และเป็นแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงชั้นนำอีกด้วย ขณะนี้พื้นที่รัสเซียยึดครองมีมูลค่าแหล่งทำเงินรายได้ของยูเครนแล้ว 2 ใน 3 ส่วน จากการตรวจสอบเงินรายได้ 2,209 แห่งจากผลนับรวมจากอุตสาหกรรม SecDev โดยรัสเซียควบคุมดังนี้

– 63% ของแหล่งถ่านหิน (จำนวน 41 แห่ง)  – 11% ของน้ำมัน (จำนวน 9 แห่ง) – 20% ของก๊าซ (จำนวน 27 แห่ง , แหล่งโพรเพน 14 แห่ง) – 42% ของโลหะ (จำนวน 6 แห่ง) – 33% ของแร่หายากรวมถึงแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น ลิเธียม ไทเทเนียม เซอร์โคเนียม สตรอนเทียม  ยูเรเนียม และทองคำ

เฉพาะในเวลานี้รัสเซียควบคุมทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของยูเครนไปแล้วมูลค่า 12.4 ล้านล้านดอลลาร์ (434 ล้านล้านบาท) นั่นหมายถึงยูเครน จะสูญเสียเงินฝากรายได้จากทรัพยากรเสาหลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศกว่า 66% ไปอย่างถาวร ยังไม่รวมแหล่งทรัพยากรเพาะปลูกธัญพืช ที่รัสเซียส่งออกจากแคว้นซาโปริชเซียที่อุดมสมบูรณ์อีกต่างหาก

แม้ว่ารัสเซียยังไม่ได้ยึดแหล่งสำรองน้ำมันและก๊าซทั้งหมดมาได้ แต่ความมั่งคั่งของทรัพยากรส่วนใหญ่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียขณะนี้นั้นคือแหล่งสะสมถ่านหิน ประมาณการว่าถ่านหินแข็งกว่า 30,000 ล้านตัน ซึ่งมีมูลค่า 11.9 ล้านล้านดอลลาร์ นั้นอยู่ในส่วนที่ควบคุมโดยรัสเซียไปแล้ว

ดูเหมือนรัสเซีย จะทำการบ้านมานานว่าควรยึดพื้นที่มีค่าทางเศรษฐกิจจากแคว้นสำคัญอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ยังไม่ยึดพื้นที่กว้างใหญ่แต่ทรัพยากรน้อย แต่เลือกยึดพื้นที่แคว้นเป้าหมายแหล่งงบประมาณทำเงินรายได้สำคัญ ที่ยูเครนให้สัมปทานบริษัทชาติตะวันตกไปก่อน

ทำให้สหรัฐ และยุโรป เจ็บช้ำและคิดหนักว่าแหล่งทรัพยากร 1 ใน 3 ที่เหลือ จะคุ้มค่าพอที่จะทุ่มเทเงินและอาวุธมาให้ยูเครนต่อสู้รัสเซีย และทำลายเล่นหรือไม่ ซึ่งดูท่าแล้ว ยุโรปจะหมดแรงก่อน”