สงครามตัวแทนในยูเครนจะเป็นจุดจบ’เจ้าโลก’ตะวันตก เป็นคำพูดสะเทือนโลกของผู้นำฮังการี ที่ทำนายสถานการณ์การขับเคี่ยวของมหาอำนาจเก่า สหรัฐและพันธมิตร กับรัสเซีย-จีนกับพันธมิตรตะวันออกได้ชัดเจนว่าในที่สุดใครจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะ
วันที่ ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า นายวิคเตอร์ เออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีให้สัมภาษณ์กับทิชิส เอียนบลิค (Tichys Einblick) นิตยสารออนไลน์เยอรมนีว่า เขาไม่เชื่อว่าตะวันตกสามารถได้รับชัยชนะทางทหารในยูเครนและย้ำว่าการคว่ำบาตรล้มเหลว
เออร์บาน คาดหมายว่าสภาพยุโรปจะอ่อนแอลงในเวทีนานาชาติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หลังการสู้รบในยูเครนสิ้นสุดลง
ผู้นำฮังการีกล่าวว่าตะวันตกไม่มีความสามารถที่จะเอาชนะความขัดแย้งทางทหาร กับรัสเซีย และมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดเล่นงานมอสโกว์ก็ล้มเหลวในความพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพของรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการลงโทษกลับเป็นไฟย้อนศรกลับมาทำร้ายสหรัฐและยุโรปเสียเอง
เออร์บาน เน้นว่า “ภาคส่วนขนาดใหญ่ของโลก” ชัดเจนว่าไม่ได้ให้การหนุนหลังสหรัฐฯ ในเรื่องสงครามยูเครน เช่นประเทศจีน อินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ โลกอาหรับและภูมิภาคต่างๆ ต่างไม่ได้ให้การสนับสนุนแนวทางของตะวันตกในความขัดแย้งนี้
เออร์บานทำนายว่า “มันมีความเป็นไปได้อย่างมากที่สงครามนี้จะเป็นจุดจบความเป็นเจ้าโลกของตะวันตกอย่างชัดเจน” พร้อมระบุอีกด้านหนึ่ง บรรดามหาอำนาจอื่นที่ไม่ใช่สหภาพยุโรป กำลังได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ แม้แต่รัสเซีย ซึ่งมีแหล่งพลังงานของตนเอง
นายกรัฐมนตรีฮังการี ระบุว่า แม้อียูลดการนำเขาพลังงานจากรัสเซีย แต่ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย กลับพบเห็นรายได้พุ่งทพะยาน เช่นเดียวกับปักกิ่ง ซึ่งเวลานี้อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นจากก่อนหน้าเกิดความขัดแย้ง โดยเขาชี้ว่าก่อนหน้านี้ จีน เคยต้องพึ่งความเมตตาจากโลกอาหรับ แต่ปัจจุบันมันไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป ซึ่งในกรณีนี้คาดหมายว่า เออร์บาน น่าจะพูดถึงตลาดน้ำมันที่หันมาผนึกกันแน่นแฟ้นโดยไม่สนคำสั่งของวอชิงตันอีกต่อไป
ส่วนผู้ได้รับผลประโยชน์อื่นๆ ตามมุมมองของนายกรัฐมนตรีฮังการี คือ บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ของอเมริกา โดยเขาชี้ถึงกรณีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวของเอ็กซอน ๔ เท่าสำหรับเชฟรอน และโคโนโคฟิลลิปส์ มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง ๖ เท่า
ฮังการี คงจุดยืนเป็นกลางมาตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนปะทุขึ้น โดยไม่มอบอาวุธใดๆ แก่ทั้งสองฝ่าย และไม่ออกถ้อยแถลงรุนแรงใดๆ กับทั้งมอสโกว์และเคียฟ
บูดาเปสต์ ยืนยันว่าพวกเขาไม่อาจเอาความปลอดภัยของประชาชนชาวฮังการีเข้าไปเสี่ยง และจะไม่ยอมถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้ง ยิ่งไปกว่านั้น เออร์บาน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ของฮังการี วิพากษ์วิจารณ์ซ้ำๆ ว่ามาตรการคว่ำบาตรบางอย่างของอียู ทำร้ายอียูเองมากกว่ารัสเซีย
ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม ฮังการีเผชิญหน้าโดยตรงกับบรรดาผู้นำอียูเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย สุดท้ายแล้ว บูดาเปสต์ ก็เลิกใช้สิทธิคัดค้าน หลังได้รับข้อยกเว้นสามารถนำเข้าน้ำมันรัสเซียผ่านท่อลำเลียงได้
ไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรีของฮังการี ประธานสภาฯของฮังการีก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ได้ออกมาวิจารณ์ว่า สงครามเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปกับรัสเซียจะทำลายเศรษฐกิจของยุโรปเอง
Laszlo Kover ประธานรัฐสภาของฮังการีประณามการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปต่อรัสเซียว่า”ผิดหลักการ” และจะเกิดความหายนะทางเศรษฐกิจตามมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
คอเวอร์กล่าวสัมภาษณ์ในเมืองบูแก็ค (Bugac) ของฮังการีเมื่อวันเสาร์สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เขาใช้สุภาษิตฮังการีเพื่ออธิบายการตัดสินใจของสหภาพยุโรปที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ต่อรัสเซีย ทั้งๆที่ยังคงพึ่งพาการส่งออกพลังงาน และไม่มีทางเลือกอื่นๆอย่างแท้จริงเตรียมไว้
“นักการเมืองชาวบรัสเซลส์เหวี่ยงขาโดยไม่มีม้าอยู่ข้างใต้”เขาบอกกับผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับเทศกาลคูรูลทาจ (Kurultaj) ซึ่งเป็นงานประจำปีที่เฉลิมฉลองวัฒนธรรมม้าเร่ร่อนของชาวยูเรเชียนและเตอร์ก
โคเวอร์กล่าวเสริมว่า มาตรการคว่ำบาตรซึ่งกำหนดถึง ๗ รอบติดต่อกันนับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ถือว่า“ผิดไปถึงแก่น”และจะส่งผลให้เกิดความพินาศทางเศรษฐกิจสำหรับยุโรป
คำทำนายของประธานสภาฯฮังการีเห็นผลแล้วในวันนี้ เมื่อเศรษฐกิจยุโรปกำลังเดินเข้าสู่ยุคมืดมน ประชาชนต้องเผชิญความยากลำบากสาหัสในการดำเนินชีวิต
แน่นอนว่า คำทำนายของนายกรัฐมนตรีที่ว่า อำนาจครองโลกของตะวันตก จะถึงจุดจบในที่สุดเพราะการตัดสินใจผิดพลาดโหมสงครามตัวแทนยูเครนนั้น ส่อเค้าลางเป็นจริง ค่อยๆเผยให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โลกต้องลุ้นระทึก และหวังว่าวิกฤติใหญ่ของโลกครั้งนี้ จะไม่จบลงด้วยสงครามนิวเคลียร์ เพราะการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายของเจ้าครองโลกอำนาจเดี่ยวอย่างสหรัฐฯ???