กระทรวงการคลังของเยอรมนีเผยแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไร้ทางออก เห็นแต่ความ ‘มืดมน’ เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและยังไม่มีแนวโน้มจะแก้ไขได้ตกในเวลาอันใกล้นี้ สถานเช่นนี้เป็นไปทั่วยุโรป ข่าวคราวบริษัทในสหภาพยุโรปจำนวนมากขึ้นเผชิญกับการล้มละลาย ความยากลำบากในชีวิตของประชาชนเพิ่มขึ้นจากการต้องเผชิญปัญหาโรคระบาดยังไม่ฟื้นตัวดี ก็เจอกับวิกฤติพลังงานที่เกิดจากความผิดพลาดทางนโยบายของผู้นำและคณะรัฐบาลตัวเอง ส่งผลให้กระแสการต่อต้านจากประชาชน และภาคธุรกิจก่อตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ม็อบชาวนาก่อตัวขึ้นที่เมืองบอนน์ของเยอรมนี ฝูงชนจำนวนมากเคลื่อนไหวประท้วงปัญหาพลังงานและกฎหมายที่บีบบังคับเกษตรกร ทำให้การขนส่งในพื้นที่และธุรกิจหยุดชะงัก การขนส่งสาธารณะถูกรบกวน แม้ยังไม่มีการใช้ความรุนแรงแต่ก็เกิดการปะทะประปรายระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ สัญญาณมิคสัญญีเพิ่งเริ่มต้น
วันที่ ๒๑ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และอัลอะราบิยารายงานว่า กระทรวงการคลังระบุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเยอรมนีมืดมน ไร้ทางออกเนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่เศรษฐกิจเยอรมัน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปกำลังถดถอยและซบเซา
กระทรวงกล่าวในรายงานประจำเดือนเดือนสิงหาคม และเสริมว่า “มีความไม่แน่นอนในระดับสูง” “ปริมาณก๊าซที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากรัสเซีย ราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสินค้าอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่ยาวนานเกินคาด ซึ่งเกี่ยวข้องกับนโยบายปลอดโควิดของจีน กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักในการพัฒนาเศรษฐกิจของเยอรมนี”
ราคาผู้ผลิต ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับอัตราเงินเฟ้อ ได้พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในเดือนนี้เทียบกับเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากราคาพลังงานที่สูงเป็นหลัก สำนักงานสถิติของรัฐบาลกลางกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าราคาพลังงานโดยรวมเพิ่มขึ้น๑๐๕% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้าที่สูงขึ้น
ด้วยต้นทุนพลังงานที่สูงอยู่แล้ว รัฐบาลเยอรมนีจะเรียกเก็บภาษีผู้ใช้ก๊าซตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ซึ่งจะเพิ่มค่าพลังงานประจำปีของครอบครัวโดยเฉลี่ยหลายร้อยยูโร เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว ภาษีการขายสำหรับก๊าซจะลดลงเหลือ ๗ เปอร์เซ็นต์จาก๑๙ เปอร์เซ็นต์
ราคาพลังงานที่สูงขึ้นหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อไม่น่าจะเย็นลงโดยง่ายในเร็วๆ นี้ อัตราเงินเฟ้อประจำปีของเยอรมนีในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ร้อยละ ๘.๕ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราที่บันทึกไว้ของยูโรโซนที่กว้างขึ้นที่ร้อยละ ๘.๙
กระทรวงการคลังกล่าวว่า ในเดือนเมษายนรัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี ๒๐๒๒ ที่ร้อยละ ๖.๑ โดยจะนำเสนอประมาณการเศรษฐกิจฉบับปรับปรุงในวันที่ ๑๒ตุลาคมนี้ แต่ข้อเท็จจริงในปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อยังคงพุ่งทะยานไม่ลด
ความยากลำบากสาหัสขนาดไหน เมื่อต้องเผชิญวิกฤตพลังงาน ดูได้จากการที่ปัจจุบันชาวเยอรมันเกือบ ๒ ใน ๓ ต้องลดเวลาในการอาบน้ำลง เพื่อตอบสนองต่อการเรียกร้องของรัฐบาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า อ้างจากผลสำรวจเมื่อเดือนที่แล้วโดยสถาบันวิจัยไอเอ็นเอสเอ (INSA)ของเยอรมนี ด้านรัฐบาลยังคงเร่งโฆษณาให้ประชาชนลดการใช้พลังงาน โดยแนะให้ลดความเย็นของเครื่องปรับอากาศและใช้น้ำร้อนน้อยลง
วิกฤตขาดแคลนพลังงาน ทำให้่ทางการเบอร์ลินเริ่มฟื้นฟู โรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมสำหรับการใช้ก๊าซ และมีรายงานว่ากำลังพิจารณาที่จะให้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่เหลืออยู่ เริ่มเปิดทำงานอีกครั้งภายในปีนี้ด้วย แต่คงไม่ทันหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง
สถานการณ์ล่าสุดเพจสาธารณะ World Update รายงานแนวโน้มวิกฤติพลังงานที่ลามไปทั่วยุโรปไว้ดังนี้
ราคาถ่านหินในยุโรปพุ่งเข้าสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่อีกครั้ง ! เนื่องจาก Demand ที่สูงขึ้นเพราะยุโรปจำเป็นต้องหาแหล่งพลังงานอื่นทดแทนก๊าซของรัสเซีย และยังมีความกังวลเกี่ยวกับฤดูหนาวที่ใกล้เข้ามาอีกด้วย
ระบบสาธารณูปโภคของยุโรปตอนนี้หันกลับมาใช้ถ่านหินกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเติมเต็มก๊าซที่หายไปจากรัสเซีย และหนุนให้ราคาถ่านหินพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
ตอนนี้ทั่วโลกกำลังจับตามองว่าวิกฤตพลังงานในยุโรปจะถูกขับเคลื่อนต่อไปอย่างไร และจะไปสิ้นสุดลงตรงไหนกันแน่ ?? ในขณะที่ธุรกิจและภาครัวเรือนกำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลาย ๑๐ ปี
บริษัท Uniper SE ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีประกาศผลขาดทุนสูงถึง ๑.๒ หมื่นล้านดอลลาร์ โดยผลกระทบหลักนั้นมาจากการตัดก๊าซของรัสเซีย
สิ่งที่น่าจับตามองมาก ๆ อีกอย่างคือตัวเลขเงินเฟ้อในยุโรป ซึ่งหลายคนกำลังลุ้นว่าจะพุ่งขึ้นอีกหรือลดลงเหมือนสหรัฐฯ กันแน่ ? เพราะยุโรปนั้นดูเหมือนจะไม่เคยเผชิญวิกฤตค่าครองชีพและการตัดก๊าซจากรัสเซียมาก่อนเลย
เรียกว่าทั้งเยอรมันและเพื่อนๆในยุโรปต่างหนีไม่พ้นยุคมืดมนที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เป็นผลจากการเดินตามวาระวอชิงตันไม่ลืมหูลืมตา!!