หลังจากที่ แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า สหรัฐอเมริกาเเละไต้หวันเริ่มต้นการหารือการค้าภายใต้แนวทางใหม่ โดยทั้งสองประเทศต้องการบรรลุข้อตกลง “ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่มีความหมาย” เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐเพิ่มการสนับสนุนเกาะไต้หวันมากขึ้น
โดยทางฝั่งรัฐบาลสหรัฐ เเละไต้หวัน ได้เปิดเผยแผนริเริ่มเกี่ยวกับการค้าในศตวรรษที่ 21 มาตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน เพียงไม่กี่วันหลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แยกเกาะที่เป็นข้อพิพาทแห่งนี้ออกจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจเเห่งเอเชีย ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีน แต่ได้สร้างข้อตกลงเฉพาะขึ้นมากับทางไต้หวัน
ทำให้น่าจับตามองว่า การที่สหรัฐฯ-ไต้หวัน หารือทางการค้า จะเป็นการยั่วยุจีนทางอ้อม ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาบานปลายอีกมากมายตามมา ที่ผ่านมาสหรัฐฯมีส่วนทำให้จีนต้องออกมาประณามกับการกระทำหลายรอบ ทั้งการที่นางเปโลซีมาเยือนไต้หวัน และตามมาด้วยส.ว.มะกัน ส.ส.แคนดานา และจะมีตัวแทนจากอังกฤษมาเยือนไต้หวัน เพื่อเพิ่มแรงปะทุต่อจีนอีก นอกจากนี้สหรัฐฯยังคงเดินหน้าหนุนอาวุธยูเครน ไปพร้อม ๆ กับการวุ่นวายในสถานการณ์ตึงเครียดที่ช่องแคบไต้หวัน จนดูเหมือนว่า อีกมุมหนึ่ง บ้านเมืองของสหรัฐฯ ก็กำลังเจอปัญหาถาโถม ทั้งเรื่องพลังงาน ราคาน้ำมัน และเงินเฟ้อ รวมไปถึงปัญหาคนไร้บ้านที่ตอกย้ำความพังของระบบการทำงานรัฐบาลไบเดน
ล่าสุดในเฟซบุ๊ก Jaroensook Limbanchongkit Pone ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า “ภาพจากตำรวจแอลเอ #LAPD ที่ #ลอสแองเจลิส #LosAngeles #สหรัฐ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 เวลาประมาณ 00:40 น. ที่ผ่านมา มีการก่อ #แฟลชม็อบ ยึดถนนที่ Figueroa และ El Segundo จากนั้น #FlashMob ก็กลายเป็นกลุ่มโจรบุกปล้นสะดมร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่อยู่แถวนั้น นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา มักปรากฎภาพกลุ่มวัยรุ่นปล้นร้านค้าในสหรัฐฯมากขึ้นด้วย ยิ่งสะท้อนให้เห็นความล้มเหลวที่รัฐบาลไม่สามารถรับมือได้ เมื่อเทียบกับการทุ่มงบจำนวนมาก เพื่อมอบอาวุธให้ยูเครน
อย่างไรก็ตามได้มีมุมมองในโลกโซเชียลมองว่า นี่เป็นกรรมที่สหรัฐฯทำไว้กับชาติอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะสภาพบ้านเมืองตัวเองก็ย่ำแย่ เจอหายนะรายวันด้วย