หลังจากที่มีประเด็นใหม่ให้น่าจับตามองว่า ที่ผ่านมายูเครนเป็นเพียงเหยื่อ และหมากตัวหนึ่งของสหรัฐฯเท่านั้น แท้จริง สหรัฐฯต้องการเปิดสงครามกับเยอรมัน ในเรื่องท่อก๊าซต่างหาก เพราะไม่ต้องการให้เยอรมันกับรัสเซียแนบแน่นทางการค้ามากจนเกินไป และจับตาว่าเยอรมันอาจจะเป็นตัวเปลี่ยนขั้ว ที่หันกลับมาจับมือรัสเซีย เล่นงานสหรัฐฯแทน
ก่อนหน้านี้”โอลาฟ ชอลซ์” นายกเยอรมันนี เปิดเผยเรื่องอาวุธในรัสเซีย ที่สื่อตะวันตกมักหยิบยกเอามาตีข่าวว่า อาวุธรัสเซียใกล้หมดคลังแสง โดย”โอลาฟ ชอลซ์” ได้เล่าถึงเรื่องอาวุธในรัสเซีย ว่ามีมหาศาล เพราะปูตินก็ได้เตรียมการต่อกรกับนาโตไว้อย่างยาวนานแล้วเช่นกัน
ล่าสุดมีสื่อต่างประเทศเปิดเผยว่า เยอรมันนีเหลือก๊าซใช้อีกเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น โดยทางการเยอรมันนีก็ออกมายืนยันว่า หากรัสเซียยุติการส่งก๊าซธรรมชาติทั้งหมด เยอรมนีจะมีก๊าซไม่เพียงพอสำหรับใช้งานในช่วงฤดูหนาวที่จะถึงนี้ ซึ่งนับระยะเวลาก็เหลืออีกเพียงแค่ 2 เดือนนิด ๆ หากยุโรปเดินทางมาถึงฤดูหนาว แน่นอนว่า ทั้งน้ำ ไฟฟ้า และพลังงานที่จะให้ความอบอุ่นได้ มีไม่เพียงพอต่อประชากรทั้งประเทศ
ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการทั้งไทยและต่างชาติ จับตามองว่า หนาวนี้ของยุโรปจะไม่เหมือนเดิม แต่จะหนาวกว่าทุกครั้ง เพราะไร้พลังงาน พร้อมตั้งคำถามว่า ยุโรปจะอยู่อย่างไร หากไร้น้ำ ไร้พลังงานและไฟฟ้า เพราะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงติดตามต่อไปว่า ความลำบากที่ยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมันนีต้องเผชิญ จะหนักหนาพอให้รัฐบาลคิดทบทวน หยุดส่งอาวุธหนุนยูเครนหรือไม่ และจะเดินเกมหักหลังสหรัฐฯกลับไปคืนดี จับมือกับรัสเซีย ไม่ยอมคว่ำบาตรต่อ เพราะต้องเอาตัวรอด ในเมื่อสหรัฐฯไม่ได้จริงใจจะช่วยเหลือยุโรปตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตาม บางกระแสข่าวก็เปิดเผยด้วยว่า ในวิกฤติพลังงานนี้ ทำให้พ่อค้าถ่านรายใหญ่ในเยอรมันร่ำรวยขึ้นมาทันที เพราะประชากรเริ่มทยอยตุนถ่านและฟืนกันมากขึ้นด้วย