การขับเคี่ยวในสงครามของสหรัฐและพันธมิตรกับรัสเซียในด้านเศรษฐกิจ ชัดแจนว่าแพ้พ่าย คว่ำบาตรไร้พลังทำอะไรรัสเซียไม่ได้ แค่ส่งออกพลังงานก็โกยรายได้กระเป๋าตุง ทั้งๆที่สหรัฐห้ามไม่ให้ประเทศอื่นซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียแต่ตัวเองแอบซื้อ เอาไปขายทำกำไรจากยุโรป มาวันนี้ สหรัฐหมดบารีสั่งอะไรใครๆก็เลิกเชื่อเพราะสองมาตรฐานเห็นชัด พากันกลับมาซื้อพลังงานจากรัสเซียอีกใกล้หน้าหนาวก็ต้องเร่งเอาตัวรอด ยังไม่นับที่ขายให้อินเดีย-จีน-อินโดนีเซีย รวยแค่ไหนไม่รู้แต่มีเหลือส่งไปช่วยคิวบานับแสนตัน หลังโรงกลั่นในคิวบาระเบิด
มาดูฝั่งมหาอำนาจเก่าอย่างสหรัฐและบริวารหลัก หนี้แห่งชาติของสหรัฐขณะนี้อยู่ที่ ๓๐.๖ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไม่สามารถชำระคืนได้ มีแววล้มละลายชัดเจนส่วนบริวารทั้งอังกฤษและแคนาดามีสภาพไม่ต่างกัน ทั้งสามประเทศยักษ์ใหญ่นี้ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สินสูงสุดในโลก และนี่อาจเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกเร่งกระตุ้นสงครามทั้งในยุโรปและเอเชีย-แปซิฟิก รีเซ็ทโลกเพื่อล้มกระดานหนี้ท่วมของตัวเอง
วันที่ ๑๙ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรอยเตอร์ รายงานว่า จากปริมาณการส่งออกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาพลังงานที่พุ่งสูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออกพลังงานของรัสเซียพุ่ง ๓๓๗,๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ คิดเป็นเงินไทยราว ๑๒ ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น ๓๘% จากปี๒๐๒๑ อ้างอิงเอกสารของกระทรวงเศรษฐกิจรัสเซีย ในขณะที่เศรษฐกิจในภาพรวมมอสโกว์สามารถรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรทุกด้านได้ดีเกินคาด
จานิส คลูก (Janis KlugeX นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบันนานาชาติและกิจการความมั่นคงแห่งเยอรมนีระบุว่า “ผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรต่อเศรษฐกิจรัสเซียไม่สมดุลกัน ในบางภาคอุตสาหกรรม มันคือหายนะ อย่างเช่นอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่กับภาคน้ำมัน สำหรับเวลานี้แทบไม่มีรอยขีดข่วนใดๆทั้งสิ้น”
กระทรวงเศรษฐกิจรัสเซียประมาณการว่า เวลานี้ปริมาณก๊าซที่จ่ายผ่านท่อลำเลียงจาก ก๊าซพรอม ผู้ส่งออกรายใหญ่ของรัสเซีย จะลดลงเหลือ ๑๗๐,๔๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตรในปีนี้ จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ในเดือนพฤษภาคม ว่าจะอยู่ที่ ๑๘๕,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร
รัสเซียเริ่มยกระดับกำลังผลิตน้ำมันอย่างค่อยไปค่อยไปตามหลังข้อจำกัดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับมาตรการคว่ำบาตร แต่มีคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากเอเชียอินเดีย-จีน-อินโดนีเซียและล่าสุดเมียนมา ทำให้มอสโกปรับเพิ่มประมาณการกำลังผลิตและการส่งออกไปจนถึงช่วงสิ้นปี ๒๕๒๕
ก๊าซพรอมเปิดเผยด้วยว่า อุปทานปิโตรเลียมที่ป้อนแก่จีนก็กำลังเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ในขณะที่จนถึงตอนนี้ ยุโรป ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับก๊าซธรรมชาติรัสเซียเพราะหลายประเทศทะลวงคว่ำบาตรแย่งซื้อก๊าซรัสเซียไม่สนคำสั่งห้ามของวอชิงตัน
เปรียบเทียบกับคู่ปรับมหาอำนาจสหรัฐและบริวารแตกต่างจากรัสเซียอย่างฟ้ากับเหว ทั้งๆที่เป็นฝ่ายริเริ่มบีบคั้นทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย กลับอยู่ในอาการร่อแร่สาหัสเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน
แคนาดา สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นแท่นประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สินสูงสุดในโลกไปเรียบร้อยแล้ว จากรายงานของอินเวสส์ (Invezz) องค์กรด้านการเงินและการลงทุนมีสำนักงานใหญ่ที่บัลแกเรีย ได้เปิดเผยรายงานเมื่อวันพุธที่ ๑๗ ส.ค.ที่ผ่านมา
รายงานวิเคราะห์ข้อมูลทั่วโลกโดยใช้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับหนี้หลายประการ รวมถึงการเป็นเจ้าของบัตรเครดิต หนี้ครัวเรือน และหนี้ภาครัฐ เพื่อกำหนดว่าประเทศใดมีหนี้ในระดับสูงสุด
รายงานระบุ“แคนาดามีปัญหาหนี้สินโดยรวมมากที่สุด โดยมีคะแนนรวม ๘.๔๒ จาก ๑๐ คะแนน โดยได้ติด ๑๐ อันดับแรกในแต่ละปัจจัยที่นำมาพิจารณา ขณะเดียวกันก็ครองอันดับ ๑ ในการเป็นเจ้าของบัตรเครดิตด้วย”
นอกจากนี้ รายงานระบุแคนาดายังมีความเป็นเจ้าของบัตรเครดิตและหนี้ครัวเรือนสูงสุดในโลก
คะแนนหนี้รวมของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ ๗.๙๒ ในขณะที่สหรัฐอเมริกามาอยู่ในอันดับที่๓ โดยได้รับคะแนนหนี้โดยรวม ๗.๗๕
รายงานระบุว่า “สหราชอาณาจักรมีประชากรที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินมากที่สุด โดยมีการค้นหามากที่สุดต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คนสำหรับหนี้และเงื่อนไขเกี่ยวกับเครดิต นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังติดอันดับ ๑๐ อันดับแรกสำหรับหนี้รัฐบาล โดยอยู่ในอันดับที่ ๑๐ เช่นเดียวกับความเป็นเจ้าของบัตรเครดิตซึ่งได้อันดับที่๗”
ในทำนองเดียวกัน สหรัฐอเมริกาติดอันดับ๑ ของสิบประเทศสำหรับการค้นหาเกี่ยวกับหนี้และเครดิต หนี้รัฐบาล และการเป็นเจ้าของบัตรเครดิต
สหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับที่๖ ในการเป็นเจ้าของบัตรเครดิตที่ ๖๖.๗๐% และอันดับที่๕ ในแง่ของหนี้ต่อ GDP ซึ่งอยู่ที่ ๑๐๘.๘% สำนักงานงบประมาณรัฐสภาคาดการณ์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่าหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐจะสูงถึง ๑๘๕% ของ GDP ภายในปี ๒๐๕๒