วิกฤตรอบด้านกำลังถาโถมสู่สหรัฐ ไม่ว่าปธน.โจ ไบเดนจะพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของคนอเมริกัน ให้สนใจศัตรูภายนอกประเทศทั้งรัสเซียและจีนว่าเป็นวาระจำเป็นเร่งด่วนแค่ไหนก็ปิดบังภัยพิบัติรอบตัวมะกันไม่มิด ภาวะแล้งจัดจนถึงขนาดต้องแบ่งปันน้ำในหลายรัฐ ตลาดแรงงานที่ยังวิกฤติสาหัสแก้ไม่ตกด้วยปัจจัยรุมเร้า ปัญหาเศรษฐกิจที่เน้นกดเงินเฟ้อโดยการขึ้นดอกเบี้ย ก็ยังต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นเข็มชี้ภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอยู่ในความตกต่ำเพราะดอกเบี้ยสูง กำลังซื้อหด ภาพรวมทั้งหมดนี้สะท้อนภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่ารมว.คลังสหรัฐและประธานเฟดจะหลีกเลี่ยงไม่ใช้คำนี้ก็ไม่อาจหลีกหนีความจริงไปได้
วันที่ ๑๘ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวเอเอฟพีและซินหัวรายงานว่า วิกฤตแล้งจัดของสหรัฐฯทำให้หลายมลรัฐในสหรัฐอเมริกา รวมถึงเม็กซิโกจะถูกตัดน้ำใช้ หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำโคโลราโดลดระดับลงเรื่อยๆจนน่ากังวล
เจ้าหน้าที่รัฐบาลในกรุงวอชิงตันดีซีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า “เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลายของระบบนิเวศในแม่น้ำโคโลราโด การใช้น้ำในลุ่มน้ำจะต้องลดลง”
ปริมาณน้ำฝนที่ตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมากว่า ๒ทศวรรษ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโคโลราโด ซึ่งถือเป็นแหล่งน้ำหลักทางภาคตะวันตกของสหรัฐฯ อยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์ ทำให้วงจรภัยแล้งตามธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น
แม้จะมีคำเตือนสถานการณ์มาหลายปี และมีการออกคำสั่งเด็ดขาดจากรัฐบาลกลาง แต่บรรดารัฐที่พึ่งพาแม่น้ำโคโลราโดก็ไม่สามารถลดการใช้น้ำลงได้ จนในที่สุดรัฐบาลกลางต้องออกคำสั่งและมาตรการเด็ดขาดเมื่อวันอังคารที่ ๑๖ ส.ค.ที่ผ่านมา ดำเนินการอย่างจริงจังก่อนสถานการณ์จะย่ำแย่เกินแก้ไข
การจัดสรรน้ำในแม่น้ำให้แก่รัฐแอริโซนาจะลดลง๒๑% ภายในปี ๒๕๖๖ ในขณะที่รัฐเนวาดาจะได้รับน้ำน้อยลงกว่าเดิม ๘% ส่วนการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำไปยังเม็กซิโกจะลดลงจากเดิม ๗% สำหรับมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแหล่งบริโภคน้ำในแม่น้ำรายใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในรัฐทางตะวันตก จะไม่ได้รับผล กระทบในปีหน้า
เส้นทางของแม่น้ำโคโลราโดในเทือกเขาร็อคกี้ ไหลผ่านรัฐโคโลราโด, ยูทาห์, แอริโซนา, เนวาดา, แคลิฟอร์เนีย และเม็กซิโกตอนเหนือ ก่อนไหลลงสู่อ่าวแคลิฟอร์เนีย
ทอมมี โบโดรว (Tommi Beaudreau)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ กล่าวว่า”วิกฤตภัยแล้งรุนแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อลุ่มน้ำโคโลราโดได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งอุณหภูมิที่ร้อนจัดและปริมาณน้ำฝนต่ำ” “ในทางกลับกัน สภาพภัยแล้งที่รุนแรง จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงจากไฟป่าและการหยุดชะงักของระบบนิเวศ เพิ่มความตึงเครียดให้กับชุมชนและภูมิประเทศโดยรวม” ทางตะวันตกของสหรัฐฯ กำลังประสบกับภัยแล้งต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒๓ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า ๑,๐๐๐ ปี
ในวันเดียวกัน รายงานด้านสถานการณ์แรงงานในสหรัฐฯนับเป็นข่าวร้าย จำนวนแรงงานได้หดตัวลงนับตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ นอกจากนี้ยังมีการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retire) แรงงานต่างชาติเข้าประเทศที่ลดลง และจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขั้น ทำให้ทวีความรุนแรงของภาวะขาดแคลนแรงงานซ้ำเติมยิ่งขึ้น
ข้อมูลล่าสุดจากหอการค้าสหรัฐฯ เผยว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน สูงเกิน ๑๐ ล้านอัตรา สวนทางกับผู้หางานที่น้อยกว่า๖ ล้านคน
กลุ่มนักวิเคราะห์ระบุว่าคนที่หยุดทำงานในฤดูใบไม้ผลิ ปี ๒๐๒๐ ขณะโรคระบาดใหญ่เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีหลายล้านคนเป็นคนที่เลือกเกษียณอายุก่อนกำหนด เพราะเป็นห่วงสุขภาพของตนเองและมีทรัพย์สินเพียงพอจากการทำกำไรในตลาดหุ้นที่คึกคัก และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูง
นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่าตลาดแรงงานไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ในระยะสั้น เนื่องด้วยภาวะประชากรสหรัฐแก่ชรา
ปัญหาทางเศรษฐกิจอีกด้านหนึ่งที่ชายภาพพร้อมกันในช่วงเวลานี้คือตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ กำลังตกต่ำสู่ภาวะถดถอยอย่างเต็มรูปแบบท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยการจำนองและต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น
รายงานระบุว่าความเชื่อมั่นของผู้ก่อสร้างลดลง ๘ เดือนติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการตกต่ำครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ตลาดที่อยู่อาศัยล่มสลายในปี ๒๐๐๗ เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในเวลานั้น ดูเหมือนว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย?
มติของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยการจำนองพุ่งสูง โดยอัตราดอกเบี้ยการจำนองคงที่เฉลี่ย 4Q ปี เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่านับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
เจอร์รี คอนเทอร์ ประธานสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่ามีผู้บริโภคไม่กล้าตัดสินใจกันมากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านที่เพิ่มสูงซึ่งถือเป็นสัญญาณอันน่าตื่นตระหนก
