ยังคงพลาดไม่ได้กับสถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน ที่ความตึงเครียดที่เดินหน้าต่อเนื่อง และมีกระแสข่าวรายงานเช่นกันว่า ยูเครนต้องการยื้อให้สงครามยาวออกไปจนถึงปลายปีนี้ แต่ท่าทีของสหรัฐฯดูเหมือนว่าจะเบนเข็ม หันไปเพิ่มความตึงเครียดกับไต้หวันและจีนแทนยูเครนในเวลานี้แทน จนมีกระแสใหม่ที่น่าจับตามองว่า ที่ผ่านมายูเครนเป็นเพียงเหยื่อ และหมากตัวหนึ่งของสหรัฐฯเท่านั้น แท้จริง สหรัฐฯต้องการเปิดสงครามกับเยอรมัน ในเรื่องท่อก๊าซต่างหาก เพราะไม่ต้องการให้เยอรมันกับรัสเซียแนบแน่นทางการค้ามากจนเกินไป และจับตาว่าเยอรมันอาจจะเป็นตัวเปลี่ยนขั้ว ที่หันกลับมาจับมือรัสเซีย เล่นงานสหรัฐฯแทน
มุมมองดังกล่าวอาจจะไม่ไกลเกินจริง เมื่อล่าสุดมีสัมภาษณ์ของ “โอลาฟ ชอลซ์” นายกเยอรมันนี เปิดเผยเรื่องอาวุธในรัสเซีย ที่สื่อตะวันตกมักหยิบยกเอามาตีข่าวว่า อาวุธรัสเซียใกล้หมดคลังแสง โดย”โอลาฟ ชอลซ์” ได้เล่าถึงเรื่องอาวุธในรัสเซีย ว่ามีมหาศาล เพราะปูตินก็ได้เตรียมการต่อกรกับนาโตไว้อย่างยาวนานแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ ได้โพสต์ข้อความ ผ่าน Blockdit อีกด้วยว่า คนไทยหลายคนหลงเชื่อข่าวลวงของ CIA ว่ารัสเซียหมดกระสุน รัสเซีย ขาดเงิน รัสเซียขาดแคลนอาวุธ ฯลฯ ปัญญาอ่อนดีแท้ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีให้สัมภาษณ์ยืนยันด้วยตนเองว่ารัสเซียไม่มีทาง” มดกระสุนหรือ หมดอาวุธง่าย ๆ เพราะได้เตรียมการเปิดศึกกับนาโตที่ยูเครนนานแล้ว
ที่ผ่านมามีการเปิดเผย ทั้งสื่อของอังกฤษ สหรัฐฯและตะวันตก ตั้งแต่เดือนแรก ๆ ที่รัสเซียกับยูเครนมีปมเดือดต่อกัน จนเดือนมีนาคม 2565 ก็มีสื่อจั่วหัวข่าวทันทีว่า อาวุธรัสเซียใกล้หมดคลังแสง ซึ่งผ่านมานานกว่า 6 เดือน รัสเซียยังต่อกรกับยูเครนได้แบบเหนือชั้น และยึดอาวุธฝั่งยูเครนแบบรายวันด้วย การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายกฯเยอรมัน น่าจับตามองไปถึงชนวนสำคัญ ว่าเยอรมันจะเป็นตัวแปรที่ทำให้สหรัฐฯจะระส่ำหรือไม่ หากกลับลำมาร่วมมือกับรัสเซียแทน