จากที่สื่อต่างประเทศรายงานถึงสถานการณ์ในประเทศอังกฤษ ภายหลังร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษระบุว่า อังกฤษมีดัชนีราคาผู้บริโภค (PCI) เพิ่มขึ้นเป็น 10.1% ในรอบเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้พบว่าเป็นการ ทำสถิติสูงสุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2525 เพิ่มขึ้นจาก 9.4% ในเดือนมิถุนายน และเพิ่มขึ้นสองเท่าจากตัวเลขที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่อังกฤษกำลังเผชิญกับปัญหาราคาอาหาร และเครื่องดื่มพุ่งสูงสุดในรอบกว่าสิบปี และภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ ยังระบุว่า กลุ่มสินค้าที่มีราคาพุ่งสูงสุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ นม เนื้อสัตว์ และผัก รวมถึงการขึ้นราคาสินค้าอื่น ๆ เช่น อาหารสัตว์ กระดาษชำระ แปรงสีฟัน และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ที่มีส่วนทำให้อังกฤษเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี
ชาวอังกฤษอาจจะต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจากการปรับขึ้นค่าไฟ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นค่าไฟจะทำให้ภาวะเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นเป็นกว่า 13% และทำให้ครัวเรือนเผชิญกับภาวะถดถอยทางการเงินไปอีกยาวนาน เนื่องจากจำเป็นต้องควบคุมค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้สื่อต่างประเทศ ยังรายงานอีกว่า นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย กล่าวยืนยันถึงข้อกล่าวหาจากอังกฤษด้วยว่า รัสเซียไม่มีความจำเป็นในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน
“จากมุมมองทางการทหาร เราไม่มีความจำเป็นในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยวัตถุประสงค์หลักสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียก็คือการป้องปรามไม่ให้เกิดการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์” นายชอยกู กล่าว
นายชอยกู ยังระบุว่า สื่อกำลังเผยแพร่ คำโกหก เกี่ยวกับการที่รัสเซียกำลังเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธเคมี ทั้งยังกล่าวหาว่า สหรัฐกับอังกฤษเป็นผู้วางแผนปฏิบัติการทางทหารของยูเครน จากการที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) ได้สั่งเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออกหลายครั้งจนผิดสังเกต
ทั้งยังระบุอีกว่า การหารือเรื่องขยายเวลาสนธิสัญญาลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ (New Start Treaty) เพื่อควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐกับรัสเซียต้องอาศัยภาระผูกพันซึ่งกันและกัน แต่สถานการณ์ในตอนนี้เป็นไปได้ยากที่จะทำเช่นนั้น แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปี 2569
อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงยืนยันของนายชอยกู มีขึ้นหลังจากหน่วยข่าวกรองกลาโหมของสหราชอาณาจักร ระบุว่า กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซียในยูเครนอย่างใกล้ชิด และไม่ตัดความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์
ด้านเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความบางส่วนถึงความคืบหน้าต่อภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษ ด้วยว่า “สร้างความตกตะลึงกันทั่วโลก เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติ สหราชอาณาจักร ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค.2022 พุ่งขึ้นเร็วกว่าจรวดเป็น 10.1% เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี สูงกว่าที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 9.8%
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งถึง 13% ก่อนสิ้นปี 2022 ซึ่งถ้าสถานการณ์ยังคงแบบนี้ในเดือน ต.ค.เข้าสู่ฤดูหนาวอัตราเงินเฟ้อก็คาดว่าจะถึงจุดนี้เร็วกว่ากำหนด และน่าตกใจที่อังกฤษไม่สามารถประคองตัวทางเศรษฐกิจอยู่ได้
แม้จะมีรัฐบาลใหม่ถ้ามีนโยบายเป็นปฏิปักษ์กับจีน และคว่ำบาตรรัสเซีย สภาพเศรษฐกิจอังกฤษ คงจะแหลกพังทลาย ค่าไฟฟ้า สินค้า จะแพงขึ้นคนยากจนจะยากมากที่จะดำรงชีวิตด้วยปัจจัย 4 พื้นฐาน”