จากที่ทหารรับจ้างจำนวนหนึ่งที่อาสาเข้าไปช่วยรบยูเครน ต่อมาถูกทางกองทัพรัสเซียจับได้ ซึ่งหลายคนถูกศาลสั่งประหารชีวิต โดยที่ประเทศต้นสังกัดไม่สามารถช่วยเหลือได้ รวมทั้งนาโต้ หรือสหรัฐเองก็จนปัญญาปล่อยให้ถูกประหารชีวิตไปนั้น
ล่าสุดเพจ World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุที่มาจาก TASS และ reuters ถึงสถานการณ์ล่าสุดในยูเครนซึ่งมีบางช่วงที่สำคัญและน่าสนใจว่า “ด้วยรัฐบาลรัสเซีย ได้ออกกฎหมายประกาศใช้ใหม่ให้ขึ้นทะเบียนทหารรับจ้างต่างชาติ Azov ที่สู้รบกับกองทัพพันธมิตรรัสเซียในยูเครน หรือแอบไปก่อเหตุในรัสเซีย เป็น กลุ่มก่อการร้าย
ซึ่งหมายถึงให้บุคคลากรทางความมั่นคงของรัสเซียใช้อำนาจ วิสามัญ พวกนี้ไปก่อนโดยไม่ต้องใช้อำนาจศาล ซึ่งสหรัฐ ก็มีกฎหมายทำนองนี้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่วิสามัญผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายไปก่อนจะขึ้นศาลได้เลย
จากกรณีสาธารณรัฐโดเนตสก์ ที่มี 3 ประเทศรับรองการแยกเอกราชจากยูเครน ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ศาลแห่งนี้มีอำนาจอิสระตัดสินคดีตามกฎหมายของตนได้เอง ไม่ผูกพันกับชาติใด เมื่อ มิ.ย.2022 ศาลสาธารณรัฐโดเนตสค์ ได้ตัดสินประหารชีวิตทหารรับจ้าง Azov ทุน NATO ชาวอังกฤษ 2 ราย และโมร็อกโก 1 รายโดย ถูกจับขณะก่อเหตุต่อสู้ร่วมกับกองทัพยูเครน เพื่อต่อต้านกองทัพพันธมิตรรัสเซีย ในข้อหาพยายามใช้กำลังก่อการร้าย และเป็นทหารรับจ้างต่างชาติ
แม้ว่าญาติจะพยายามร้องขอรัฐบาลอังกฤษช่วยเหลือแต่ก็ถูกปฏิเสธลอยแพไม่มีใครสนใจ และเรื่องนี้จะให้รัสเซียช่วยก็ไม่ได้เพราะนักโทษกระทำความผิดนอกเขตอำนาจศาลรัสเซียคดีจึงจบลงที่ศาลฎีกาโดเนตสก์ยืนโทษประหารชีวิต โดยไร้ใครยื่นมือมาช่วย เพราะ NATO ก็ถือว่าได้จ่ายเงินค่าจ้างรบให้แล้วก็ถือว่าจบกันไป
ล่าสุดอัยการสาธารณรัฐโดเนตสค์ ได้ตั้งข้อหาฟ้องต่อศาล ทหารรับจ้าง Azov ทุน NATO ชาวต่างชาติ 5 ราย ที่ถูกจับเป็นนักโทษคดีอาญาก่อการร้ายขณะต่อสู้ร่วมกับกองทัพยูเครน โดยมี 3 ราย อาจต้องโทษประหารชีวิต คือ นาย Mathias Gustafsson ชาวสวีเดน
นาย Briton John Harding และนาย Vjekoslav Prebeg ชาวโครเอเชีย ซึ่งถูกจับได้ในเขตเมืองท่ามาริอูลโปล และมีทหารรับจ้างอังกฤษอีกสอง 2 รายคือ นาย Dylan Healy และ นาย Andrew Hill มีโทษจำคุกยาว โดยผู้ต้องหาทั้ง 5 รายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ขึ้นตอนจากนี้การพิจารณาคดีบนศาลจะเริ่มขึ้นในต้นเดือน ต.ค.2022 ด้าน กระทรวงการต่างประเทศโครเอเชีย แถลงไม่ขอยอมรับอำนาจกฎหมายสาธารณรัฐโดเนตสก์ นั่นเท่ากับการลอยแพให้ประหารชีวิตพลเมืองไปได้เลยทั้ง 2 ราย
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ยังวุ่นวายกับการตั้งรัฐบาลใหม่จึงไม่สนใจพลเมืองถูกจับ ด้านสวีเดนที่ตอนนี้ “ขาลอย” เพราะเบี้ยวข้อตกลงกับตุรกีว่าจะส่งตัวผู้ก่อการร้าย PKK ให้กว่า 70 ราย ทำให้ตุรเคีย ยกเลิกการขออนุมัติต่อรัฐสภา ส่งผลให้สวีเดนไม่สามารถเป็นสมาชิก NATO ได้ตลอดไปตราบที่ยังไม่ส่งตัวผู้ก่อการร้ายตามจำนวนและรายชื่อให้กับตุรเคีย
เนื่องจากตามกฎของ NATO แม้ชาติสมาชิกจะลงมติรับใบสมัครสวีเดนแล้ว แต่การรับเข้าต้องมีขั้นตอนให้รัฐสภา 30 ชาติสมาชิกต้องรับรองสมาชิกใหม่เสียก่อนจึงจะถือว่าเป็นมติที่สมบูรณ์ หรือถ้าจะขับตุรเคียออกจากสมาชิก NATO ก็ต้องให้ตุรเคียยื่นใบลาออกก่อน พร้อมรัฐสภาสมาชิกก็ต้องเหตุชอบเอกฉันท์เช่นกัน สถานะสวีเดนตอนนี้คือ ผู้สมัครสมาชิก NATO
ส่วนสถานะยูเครน คือ ผู้สมัครสมาชิก EU ที่คุณสมบัติห้ามมีหนี้สินล้นพ้นตัวและไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งแค่คุณสมบัติฐานะทางการเงินยูเครนก็ยังไม่ผ่าน
ด้านกลาโหมรัสเซีย นั้นเตรียมการลากยาวสงครามยูเครนให้ถึงฤดูหนาว เพื่อแช่แข็งชาวยูเครน และยุโรป กว่า 500 ล้านคน ให้ขาดพลังงานก๊าซ น้ำมัน ไฟฟ้า ความอบอุ่น อาหาร น้ำดื่ม
พลเอกเซอร์เก ซอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย จึงเดินทางไปตรวจการผลิตอาวุธรถถัง T-90M ของรัฐวิสาหกิจโรงงาน Uralvagonzavod ตามคำสั่งซื้อของกลาโหมรัสเซีย โดยการผลิตอาวุธของรัสเซียนั้นทุกโรงงานผลิต 24 ชม.ไม่มีวันหยุด พนักงานจำนวนมากเข้ากะสลับทั้งกลางวันกลางคืน มีอาวุธที่ผลิตใหม่ๆ ทดแทนที่ใช้ในแต่ละวัน โดยเฉพาะขีปนาวุธความแม่นยำสูงทุกชนิดสต็อคยังไม่พร่องเพราะผลิตเติมทุกวัน”