“สิ่งที่เลวร้ายกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังมา”เป็นคำกล่าวเตือนเครียดของซีอีโอเจพีมอร์แกน ที่แพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว หลังสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ๘.๕% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่กระฉูดไปที่ ๙.๑% ปธน.ไบเดนยิ้มกริ่มชี้ว่าเฟดเอาอยู่ทำให้เงินเฟ้อลดลงได้ และศก.สหรัฐจะกลับมาปังอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนที่จมูกไว และนักวิเคราะห์ที่ตั้งข้อสงสัยเปรียบเทียบค่าซีพีไอกับราคาสินค้าที่สวนทางกัน และมีคำเตือนอย่างเลวร้ายจากบิ๊กการเงินเช่นนี้ทีมเศรษฐกิจของปธน.ไบเดนไม่น่าจะปลื้มสักเท่าไร?
วันที่ ๑๖ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และบิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า เจมี่ ดิมอน (Jamie Dimon)ซีอีโอ ผู้บริหารธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งวอลล์สตรีทของสหรัฐ ‘JPMorgan’ ได้ออกมาเตือนซ้ำอีกครั้ง เกี่ยวกับการคาดการณ์ของเขาเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงโอกาสที่ “จะมีอะไรแย่ไปกว่าภาวะถดถอย” “มีเมฆพายุใหญ่” เขากล่าวโดยอ้างถึงอัตราดอกเบี้ย, การทำ QT, ราคาน้ำมัน สงครามยูเครน และความตึงเครียดกับจีน เป็นปัจจัยสำคัญกระทบกับเศรษฐกิจสหรัฐและโลก
นายธนาคารชี้ว่ามี”เมฆพายุใหญ่”ที่ขอบฟ้า ซึ่งรวมถึงราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นต่อเนื่อง เขากล่าวว่า “เมื่อคุณคาดการณ์ คุณต้องคิดให้แตกต่างออกไป ข้างนอกนั่นมีอะไร? มีเมฆพายุ อัตราการกระชับเชิงปริมาณ หรือการทำคิวที(QT) น้ำมัน ยูเครน สงคราม ความขัดแย้งกับจีน ถ้าฉันต้องเสี่ยงแน่นอน ทำอย่างไรจึงจะลงจอดอย่างนุ่มนวล อาจมีบางอย่างที่แย่กว่านั้นรออยู่ถึง ๒๐% หรือ ๓๐% มันเป็นความผิดพลาดที่ไม่ดีที่จะพูดว่า ‘นี่คือการพยากรณ์ด้านเดียวของฉัน’
เมื่อเดือนที่แล้ว ดิมอน เตือนว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Federal Reserve ที่จะเพิ่มขึ้น ประกอบกับความขัดแย้งในยูเครน อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานในอนาคต
หัวหน้าธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐจะต้องเตรียมรับมือ“พายุเฮอริเคน” ทางเศรษฐกิจทีมบริหารต้องไม่ประมาท
ขณะที่สังเกตว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯดูเหมือนแข็งแกร่ง ด้วยงบดุลของผู้บริโภคและธุรกิจอยู่ในเกณฑ์ดี ผู้บริหารเน้นย้ำว่า “คุณต้องคิดต่าง” เมื่อจะคาดการณ์ความจริงเบื้องหลังภาพสวยหรูที่วางอยู่ตรงหน้า
การคาดการณ์ของเขาสะท้อนถึงสิ่งที่เขาพูดในเดือนมิถุนายนเมื่อเขาเตือนว่า”พายุเฮอริเคนทางเศรษฐกิจกำลังมาถึงเรา” เขาแนะนำให้นักลงทุนเตรียมตัวให้พร้อม
ในขณะที่ดิมอนมองเห็นความเป็นไปได้ของบางสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย เขายังคงเน้นย้ำกับนักลงทุน ในระหว่างการเยือนสาขาธนาคาร อลนีย์วิลล์(Olneyville) ของเจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ไม่ว่าอนาคตจะมาถึงแบบไหน JPMorgan ก็พร้อมแล้ว”
นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจอยู่ในภาวะถดถอยในปีนี้ไมเคิล กาเพน (Michael Gapen) หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ Bank of America กล่าวกับ Fox Business เมื่อวันจันทร์ว่ามีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจจะถดถอยในปีนี้ เขาคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะทำให้เกิดภาวะตกต่ำโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยการทำสงครามกับเงินเฟ้อ “วัฏจักรนี้อาจจบลงด้วยการชะลอตัวเล็กน้อย ฉันจะรับมือได้อย่างไร? มันเป็นเพียงประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องยากมากที่จะลงจอดอย่างนุ่มนวล”
เดวิด เมอริเคิล(David Mericle) นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs) ให้รายละเอียดในบันทึกของลูกค้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “ข้อสรุปกว้างๆของเราคือมีเส้นทางที่เป็นไปได้ของภาวะรีเซสชั่น แต่ยากในการลงจอดอย่างนุ่มนวล มีปัจจัยหลายประการที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Fed อาจทำให้เส้นทางนั้นง่ายขึ้นหรือซับซ้อนขึ้น ซึ่งอาจลดหรือเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จในการควบคุมเงินเฟ้อได้ทั้งนั้น”
การประชุมทางการเงินที่สนับสนุนโดยอะไลอานส์เบิร์นสไตน์ โฮลดิ้งส์ (Alliancebernstein Holdings) ดิมอนเน้นย้ำอีกว่า “สถานการณ์เศรษฐกิจ“มันเป็นเฮอริเคน”“ตอนนี้อากาศแจ่มใส สิ่งต่างๆดูเหมือนกำลังไปได้สวย ทุกคนคิดว่า Fed รับมือได้ แต่พายุเฮอริเคนนั้นอยู่ตรงถนนตรงทางเข้าบ้านของเรา เราแค่ไม่รู้ว่าเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นซูเปอร์สตอร์มเท่านั้นเอง ทุกคนจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม”
ดิมอน มีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสำคัญหลายประการ ประการแรก ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าจะยกเลิกโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินและลดงบดุล และกำหนดมาตรการกระชับเชิงปริมาณ (QT) ที่กำลังเริ่มในเดือนนี้ เขากล่าวว่า
“เราไม่เคยมี QT แบบนี้มาก่อน ธนาคารกลาง ไม่มีทางเลือกเพราะมีสภาพคล่องมากเกินไปในระบบ … พวกเขาต้องขจัดสภาพคล่องบางส่วนเพื่อหยุดการเก็งกำไร ลดราคาบ้านและอะไรทำนองนั้น”
ผู้คนจำนวนมากขึ้นได้เตือนเมื่อเร็วๆ นี้ถึงภาวะถดถอย รวมถึงไมเคิล เบอร์รี่(Michael Burry) นักลงทุนจากบิ๊กช็อต (Big Short), โมฮัมเหม็ด เอลเอเรียน(Mohamed El-Erian)หัวหน้าที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของอะไลอานส์( Allianz)
Blackrock ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลกภายใต้การบริหารด้วยเงินเกือบ ๑๐ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อธิบายเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า “หากพวกเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไป พวกเขาเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอย หากเศรษฐกิจแน่นไม่พอ ความเสี่ยงก็จะกลายเป็นเงินเฟ้อยาวจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
