จากสถานการณ์น้ำมันที่ประเทศยุโรปกำลังขาดแคลน และจะวิกฤตยิ่งขึ้นเมื่อเข้าฤดูหนาว ขณะที่สหภาพแรงงานนอรเวย์คว่ำบาตรนัดหยุดงานผลิตน้ำมัน ก๊าซ ไม่มีส่งให้ประเทศยุโรปนั้น
ทั้งนี้ฝ่ายรัสเซีย ก็รู้ทางจึงลดการส่งออกก๊าซให้ยุโรป จากเดิม 42% เหลือแค่ 11% (หายไป 31%) ยุโรป จึงขอนำเข้าก๊าซจากนอร์เวย์พวกเดียวกันจากเดิม 26% เพิ่มเป็น 37% (เพิ่มขึ้น 11%) ส่วนขาดนำเข้าจากสหรัฐ มาชดเชยรัสเซีย ผ่านไประยะแรกดูเหมือนจะดี แต่สหรัฐ ส่งก๊าซ LNG ให้สหภาพยุโรปได้แค่ 3 เดือน ภายในสหรัฐ เกิดปัญหาใช้พลังงานมากขึ้น ไฟฟ้าดับ ขาดแคลนก๊าซ ชาวอเมริกันเดือดร้อน ฝืนความจริงขาดแคลนก๊าซต่อไปไม่ไหว
ต่อมารัสเซียประกาศปิดสนิทท่อส่งก๊าซ NordStream1 นาน 10 วันช่วง 11-21 ก.ค.2022 อ้างว่าเพื่อซ่อมบำรุง ทำให้สหภาพแรงงาน Lederne ซึ่งมีแรงงาน 15% ของคนงานปิโตรเลียมนอกชายฝั่งของประเทศนอรเวย์ ที่มองว่าถูกเอาเปรียบจากสภาพอัตราเงินเฟ้อในยุโรปที่สูง งานที่ทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมในการเร่งผลิตก๊าซ น้ำมัน ป้อนยุโรป สหภาพแรงงานฯ จึงต้องการอัตราค่าจ้างเพิ่ม ผลการเจรจากับสมาคมน้ำมันและก๊าซแห่งนอร์เวย์ (NOG) ล้มเหลว จึงคว่ำบาตรนัดหยุดงาน
หยุดวันละ 3 แหล่งขุดเจาะนอกชายฝั่ง ถ้าวันต่อไปยังไม่ยอมเพิ่มเป็น 6 แห่งทันที ส่งผลให้แหล่งที่ 7 คือ Tyrihans จะต้องปิดตัวลงไปโดยปริยาย ผลกระทบคือน้ำมันที่ผลิตจากนอรเวย์หายไป 130,000 บาร์เรล/วัน หรือ 6.5% และก๊าซหายไปเทียบเท่าน้ำมัน 292,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็น 13% ของผลผลิตนอร์เวย์ สหภาพยุโรป ที่เคยแต่คว่ำบาตรคนอื่น เจอสหภาพแรงงานนอรเวย์ คว่ำบาตรผลิตน้ำมัน และก๊าซ ถึงกับไปไม่เป็น
ล่าสุดเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงสถานการณ์ของสหภาพยุโรป (EU) และสหราชอาณาจักร คว่ำบาตรพลังงานน้ำมันดิบ และก๊าซรัสเซีย ทำให้บรรดาชาติในยุโรป ย้อนยุคอุตสาหกรรม แห่มาใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน และกลับมาเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหม่อีกครั้งในหลายเดือนที่ผ่านมา
อังกฤษ ยังคงน้ำเข้าน้ำมันดีเซลล์ราว 25% จากรัสเซีย แต่ไม่ช่วยแก้ปัญหาของทวีปยุโรปที่ซ้ำเติมสภาพอากาศให้เลวร้ายอย่างฉับพลัน ชั้นโอโซนยุโรปบางลง แสงอุลตร้าไวโอเล็ตทะลุลงมาสู่ผิวโลกได้มากขึ้น นำพาความร้อนระอุตามมา เกิดไฟป่า ผนวกกับชาวบ้านประกอบอาหาร โดยใช้ฟืน เพื่อประหยัด ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้เผาผลาญกรุงลอนดอลจนวอดวายไปหลายหมู่บ้านและชุมชน
บริษัทผลิตน้าดื่มประกาศเตือนสภาวะน้ำภัยแล้งส่งผลต่อการผลิตน้ำหยุดชะงักมีปัญหา บ้านเรือนหลายพันหลังกำลังขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ชาวอังกฤษจำนวนมากตื่นตระหนกแห่ไปซื้อน้ำดื่ม ทำให้ดีพาทเมนต์สโตร์และร้านค้าต้องจำกัดการซื้อน้ำขวดต่อคนต่อครั้งเพื่อปันส่วนน้ำ
ผลจากขาดพลังงานรัสเซีย ทำให้นอร์เวย์ ตัดการขายไฟฟ้าให้อังกฤษ เพราะต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน ผนวกอัตราเงินเฟ้ออังกฤษที่ทะยานร้อนแรงกว่าสภาพอากาศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในอีก 2 เดือนหน้าจะพุ่งไปเกิน 13% ส่งผลต่อค่าไฟฟ้าแพงขึ้นมหาโหด 2-3 เท่า ชาวอังกฤษถึงกับตั้งแคมเปญ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ค่าไฟฟ้า” ตั้งเป้า 1-2 ล้านราย มีการนำทรัพย์สินมีค่าไปเข้าโรงจำนำ และมีการถอนเงินสดจากบัญชีบริการโรงจำนำมาใช้ หลีกเลี่ยงการจ่ายบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ บริษัทยารา ผู้ผลิตปุ๋ยจากนอร์เวย์เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทได้ระงับการซื้อสินค้าทุกอย่างจากบริษัทและบุคคลของรัสเซียที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตร
“บริษัทยาราขอย้ำถึงความกังวลในเรื่องความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก และเรียกร้องให้รัฐบาลลงมือปกป้องห่วงโซ่อุปทานและลดการพึ่งพารัสเซีย”
ด้านกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ ก็เคยออกมาเปิดเผย นอร์เวย์ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการตามสหภาพยุโรป (อียู) ในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในประเด็นเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
โดย นายบอร์ก เบรนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศนอร์เวย์ กล่าวว่า นอร์เวย์จะดำเนินการเช่นเดียวกับอียู ซึ่งได้มีการคว่ำบาตรทางการเงินต่อรัสเซีย
“นี่หมายความว่านักการเมืองและเจ้าหน้าที่ที่สำคัญๆของรัสเซียจะไม่ได้รับการต้อนรับในนอร์เวย์อีกต่อไป โดยจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางมาหรือผ่านนอร์เวย์ พวกเขาจะไม่สามารถเข้าถึงทรัพย์สินที่พวกเขาอาจจะมีอยู่ในนอร์เวย์” นายเบรนด์ กล่าว
