หลังจากที่นักวิชาการชวนจับตามองเรื่องปมขัดแย้งจีนกับสหรัฐและไต้หวัน ว่าจะส่งผลต่อวิกฤตชิปขาดแคลนอย่างรุนแรง เนื่องจากไต้หวันเป็นฐานการผลิตชิปสำคัญของโลก ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% แต่ต่อมาสหรัฐฯเอง ก็เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะสกัดตลาดชิปจีนทุกหนทาง โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ปธน.โจ ไบเดน ได้ลงนามรับรองกฎหมาย CHIPS and Science Act เพื่อสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ หรือ ชิปคอมพิวเตอร์ ในสหรัฐ ด้วยวงเงินสูงถึง 280,000 ล้านดอลลาร์ หวังแข่งชิปจีนที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกอยู่กว่า 20%
ล่าสุดมีรายงานว่า บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำหลายแห่งในประเทศจีน ต่างพากันรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยบริษัท เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ป หรือ SMIC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน ในไตรมาสที่2 ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 41.6 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว
ส่วนบริษัท หยางโจว หยางเจีย อิเล็กโทรนิค เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์ รายงานรายรับครึ่งปีแรกที่ 438 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41.92 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบเป็นรายปี ด้านบริษัท แอมโลจิค (เซี่ยงไฮ้) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนชิปอีกแห่งหนึ่ง รายงานผลประกอบการในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 55.22 เปอร์เซ็นต์ ด้านบริษัท ซิโน เวลธ์ อิเล็กโทรนิค ผู้ออกแบบและจำหน่ายแผงวงจรรวม (integrated circuit หรือ IC )ก็มีรายรับครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 902 ล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 31.5 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้รายงานรายได้ของบริษัทชิปที่เพิ่มขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้จะการพยายามสกัดการเติบโตโดยสหรัฐฯก็ตาม โดยรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับภาคการผลิตชิปเป็นลำดับแรกและสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้มานานต่อเนื่องหลายปี จนขณะนี้ทำให้เห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีการประกาศการส่งเสริมเพิ่มเติม โดยในเขตอุตสาหกรรมใหม่ในหลิงกัง เซี่ยงไฮ้ ได้ประกาศแผนใหม่เมื่อวันศุกร์ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมแผงวงจรรวมหรือ IC ในเขตนี้ให้เกิน 1 แสนล้านหยวน ภายในปี 2025 โดยจะสนับสนุนการลงทุนของผู้ผลิตชิปชั้นนำ 5 บริษัท บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนชิปอีก 5 บริษัท และบริษัทยูนิคอร์นอีกกว่า 10 แห่ง รวมถึงบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 10 บริษัท
ทั้งนี้คาดว่าอุตสาหกรรมชิปในจีนจะยังคงเติบโตอย่างมั่นคง และจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ทำให้การลงทุนในอุตสหกรรมชิปของจีนเกิน 2 แสนล้านหยวน ในปี 2021 ซึ่งคิดเป็นการลงทุนเพิ่มขึ้น 43 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้บริษัท SMIC ยังกล่าวว่า ถึงแม้ปัจจุบันอุตสาหกรรมชิปจะเผชิญกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงระยะสั้น แต่บริษัทยังคงมั่นใจในการเติบโตระยะกลาง ถึงระยะยาว
