จากที่สื่อและนักวิชาการไทยออกมาเปิดโปงสหรัฐในการสนับสนุนกลุ่มขโมยน้ำมันซีเรีย รวมทั้งการที่รัสเซียได้เข้าไปช่วยเหลือพร้อมถ่ายคลิปวีดีโอประจานไปทั่วโลกแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ 15 สิงหาคม 2565 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาให้ข้อมูลผ่าน Blockdit ถึงความคืบหน้าของสถานการณ์ว่า
“เล่ห์เหลี่ยมรัฐบาลอเมริการ้ายนัก หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา รัสเซีย อิหร่าน ตุรกี และซีเรียช่วยกันแฉว่าอเมริกาสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย เพื่อขัดขวางมิให้ซีเรียฟื้นฟูประเทศได้สะดวก ในขณะเดียวกัน ก็ลักลอบขนนำน้ำมันในซีเรียไปขายในตลาดมืดที่ภาคเหนือของอิรัก นอกจากนั้น ยังมีข่าวว่ารัฐบาลอเมริกาได้คัดเลือกกลุ่มก่อการร้ายไอสิสที่มีฝีมือไปช่วยยูเครนรบอีกต่างหาก
หลังจาก ๔ ประเทศหลักแฉรัฐบาลอเมริกาแล้ว แทนที่จะสำนึก อเมริกากลับวางแผนจะออกกฎหมายเพื่อตราประเทศรัสเซียว่า *เป็นประเทศที่สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย* กลบเกลื่อนที่ตนนั่นแหละสนับสนุนเพื่อล้างสมองชาวโลกต่อ
จากนั้น ก็ส่งวุฒิสมาชิก ๒ คนไปยูเครนเพื่อนำร่างกฎหมายไปให้ดู วุฒิสมาชิกทั้ง ๒ คนเป็นตัวแทนทั้งพรรครีพับลิกัน ทั้งพรรคเดโมแครต ยิวไซออนิสต์และซีไอเอน่าจะอยู่เบื้องหลังร่างกฎหมายฉบับนี้
รัสเซียเตือนแล้วว่าถ้าอเมริกานำเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาและรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอเมริกาคงดิ่งลงเหว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ดร.ปฐมพงษ์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในประเทศซีเรียอีกครั้งว่า “ข่าวที่สื่อทั่วไปของไทยไม่ยอมรายงาน:กองทัพรัสเซียใช้เฮลิคอปเตอร์ Ka-52 บินสำรวจบรรดารถบรรทุกน้ำมันของอเมริกาที่ขโมยปั๊มน้ำมันในซีเรียออกไปขายในตลาดมืดเป็นประจำ
นึกไม่ถึงใช่มั้ยครับ ประเทศที่นักรัฐศาสตร์ที่จบจากอเมริกาส่วนใหญ่มองว่าเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมเสรีภาพ กลับส่งทหารไปยึดครองบ่อน้ำมันในซีเรีย แล้วปล้นน้ำมันเขาไปขายในตลาดมืดเป็นประจำฉะนี้ได้
ขณะนี้ รัสเซียใช้เฮลิคอปเตอร์ไล่ถล่มกลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มกบฎที่ชาตินักล่าอาณานิคมจัดตั้งขึ้นป่วนซีเรีย เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ เพื่อตัดกำลังกองทัพอเมริกา
ส่วนกองทัพอเมริกันนั้น ยังไม่มีการปะทะกันตรงๆ คงจะเกรงว่าอาจจะเข้าแผนอิสราเอลที่ต้องการยืมอเมริกาป่วนซีเรีย ไม่ให้ซีเรียฟื้นได้ ตนจะได้ยึดที่ราบสูงโกลันไปได้ยาวๆ
แค่นำภาพมาแฉให้สาธุชนได้เห็น บรรดาติ่งอเมริกาทั้งหลายก็เบือนหน้าหนี ไม่อยากอ่านแล้วครับ อย่าไปหวังว่าสื่อไทย จะนำข่าวทำนองนี้ไปรายงาน ถ้าใครอยากรู้ข่าวต่างประเทศรอบด้าน ต้องเลิกติดตามสื่อเหล่านี้ ไปหาสื่ออื่นแทนครับ