รัสเซีย ร่วมมือจีน นำโลกตะวันออกทุบตลาดทุนสหรัฐฯ ชาติพันธมิตรร่วมเทขายดอลลาร์ ถือแค่ “หยวน-รูเบิล”
กำลังเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เมื่อจีนเริ่มขยับตอบโต้สหรัฐฯ อย่างเต็มตัว หลังจากที่ทางด้านของ แนนซี เปโลซี บินเข้ามาเยือนไต้หวัน เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศจีนอย่างรุนแรง
ล่าสุดในวันที่ 13 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ทางด้านของ World Update ได้รายงานถึงประเด็นที่เรียกได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยพาดหัวประเด็นว่า สหรัฐ จุกหนัก! จีน-รัสเซีย แท๊กทีม รุมกระหน่ำทุบเงินทุนและทิ้งเงินตราดอลลาร์ ซึ่งมีรายละเอียดว่า
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาสหรัฐฯ ดิ้นรนเฮือกสุดท้ายหวังซ่อมแซมระเบียบโลกเก่าที่พังทลายโดยใช้มาตรการยั่วยุจีนหลายครั้ง ในหลาย ๆ ด้าน เช่น การขายอาวุธและยุยงมลฑลไต้หวันแข็งข้อจีน รวมถึงการออกกฎหมายเงินอุดหนุนชิปคอมพิวเตอร์ที่มีจุดประสงค์เพื่อทำลายอุตสาหกรรมชิปฯ ของจีน
ล่าสุดจีนจัดหนักตอบโต้ โดยบริษัทยักษ์ใหญ่จีน 5 แห่ง คือ PetroChina , China Life Insurance , China Petroleum & Chemical , Aluminium Corp of China และ Sinopec Shanghai Petrochemical ประกาศแผนการเพิกถอนหุ้นรับฝากหุ้นอเมริกัน (ADS) ของตนออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 10 ก.ย.2022
คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ออกแถลงการณ์ระบุว่าการตัดสินใจของบริษัทต่างๆ ได้เกิดขึ้นจากการพิจารณาทางการค้าของพวกเขาเอง และจะคงไว้ซึ่งการสื่อสาร กับหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบริษัทและนักลงทุน
การประกาศดังกล่าวส่งผลให้บริษัทจีนจำนวนมากกำลังเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ขณะนี้บริษัทจีนมากกว่า 20 แห่งที่เคยจดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้กลับไปขอจดทะเบียนในจีน หรือฮ่องกง คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอีกเกือบ 160 บริษัท ในไม่กี่เดือนข้างหน้า จากบริษัทจีนราว 250 แห่งที่จดทะเบียนในสหรัฐ
กลต. (CSRC) ของจีน ได้สนับสนุนการตัดสินใจของบริษัทต่างๆ ตามสถานการณ์ของตนเองและสอดคล้องกับกฎระเบียบของจุดหมายปลายทางในต่างประเทศที่พวกเขาระบุไว้ แต่แผนการถอนตัวจากสหรัฐ จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเหล่านั้นในการใช้ตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อการระดมทุน
แต่การประกาศถอนตัวจากสหรัฐ ในวันเดียวกันอาจส่งผลกระทบกับภาคการเงินของสหรัฐ ทั่วโลก ขณะนี้ไม่เพียงแต่บริษัทจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทต่างชาติอื่นๆ ที่ลังเลที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เพราะกังวลว่าจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมในสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง
ด้านธนาคารกลางรัสเซีย กำลังพิจารณาการลงทุนตั้งแต่ปี 2565-2568 จำนวนมากจากกองทุนเพื่อความมั่งคั่ง Wellbeing Fund รายได้ส่วนเกินจากการขายพลังงาน เพื่อซื้อเงินหยวนจีน รูปีอินเดีย และลีร่าตุรกี และเงินตราอื่นๆ “ยกเว้นดอลลาร์ และยูโร” เนื่องจากรัสเซียมีความจำเป็นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจปรับตัวเข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลมาจากการคว่ำบาตร
โดยนาย Anton Siluanov รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่านโยบายลงทุนเงินตรานี้ “เพื่อขยายการค้ากับเอเชีย” ขณะนี้ธนาคารกลางรัสเซีย ได้ส่งคำร้องให้รัฐบาลสั่งให้บริษัทของรัฐ “เปลี่ยนการถือครองเงินตราต่างประเทศเป็นสกุลเงินของประเทศที่เป็นมิตร” และไม่ได้เข้าร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลให้การซื้อขายหยวน-รูเบิล ทำสถิติสูงสุดที่ตลาดหลักทรัพย์มอสโกเมื่อเดือน ก.ค.2022 ที่ผ่านมา
และจากกรณีที่บริษัทยักษ์ใหญ่ CATL ของจีนระงับสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐ มูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์นั้น ล่าสุด CATL ของจีน ได้ฉีกหน้าสหรัฐ โดยโยกอัดเงินเพิ่มจำนวน 7,600 ล้านดอลลาร์ ลงทุนสร้างโรงงานฯ ในฮังการี ที่เป็นโปรรัสเซีย-จีน ไปเรียบร้อย..
สรุป โลกตะวันออกกำลังแท๊กทีมกันจัดระเบียบโลกใหม่ด้านเงินตรา รุมกระหน่ำทุบตลาดทุนดอลลาร์ในสหรัฐและทั่วโลก โยกเงินหยวนไหลมาลงทุนในตลาดเอเซีย “แยกตลาดทุนออกจากกัน” และรัสเซีย ร่วมกระหน่ำซ้ำโดยใช้เงินกองทุนมั่งคั่งเหลือเฟือจากขายพลังงานลงทุนในเงินตราชาติที่เป็นมิตร เพื่อทุบสัดส่วนเงินตราดอลลาร์ให้ตกลดลงในตลาดการค้าโลก
ระยะต่อไปจีนน่าจะเทขายดอลลาร์ทิ้งเรื่อยๆ ย่อมทำให้ตลาดทุนสหรัฐ และเงินดอลลาร์ผันผวนสวิงไปมาหนักขึ้น เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะทั่วโลกขาดความเชื่อมั่นเสียแล้ว..สหรัฐ ตื้อโทรหาจีนกว่า 100 สาย แต่ยังไม่มีใครรับ งั้นตื้อโทรต่อไป..ชนะเสียศูนย์แน่นอน