หลังจากที่ช่วงเดือนกรกฎาคม ทางซันเดย์ไทมส์ ได้รายงานผลการประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร โดย EY-Parthenon องค์กรที่ปรึกษายุทธศาสตร์ทั่วโลก ว่าช่วงฤดูหนาวปีนี้ อาจพุ่งขึ้นไปสูงถึง 15% บ่งบอกถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญในภาคธุรกิจและครัวเรือนหลายเดือนข้างหน้า และสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะเป็นตัวกำหนดด้วยว่า อังกฤษจะรอดหรือไม่ในฤดูหนาวนี้
ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีรายงานเช่นกันว่า บรรดาห้างในยุโรปต่างต้องปิดไฟและทำการขายสินค้า เนื่องจากพลังงานเริ่มไม่เพียงพอ แต่ท่าทีของอังกฤษยังคงมีการสนับสนุนยูเครนต่อไป แม้ว่าจะเผชิญกับชะตากรรมที่ย่ำแย่ก็ตาม
ขณะที่สื่อในอังกฤษรายงานสถานการณ์ล่าสุดด้วย ว่า ที่ห้างฯ “Aldi” ในลอนดอนอ อกกฎจำกัดการซื้อน้ำขวดท่ามกลางประกาศภัยแล้งของอังกฤษ โดยร้านติดป้ายระบุว่าน้ำเป็นขวด ซื้อได้ 5 ขวดต่อ 1 คน แต่ถ้าเป็นแบบแพ็ค สามารถซื้อได้ 3 แพ็คต่อคน จนเกิดเป็นกระแสความตื่นตระหนกของลูกค้า สุดท้ายแล้วทางห้างได้ยกเลิกป้ายนี้ในที่สุด นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นภาพที่ขวดน้ำถูกซื้อไปแบบเกลี้ยงชั้นวางของด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสถานการณ์ในยุโรปจะหนักหน่วงแค่ไหน แต่ก็ยังมีกระแสการสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง และมีการแสดงท่าทีท้าทายรัสเซียหลายครั้งในเรื่องพลังงาน โดยทางการอังกฤษออกมาระบุด้วยว่า เหตุระเบิดที่ฐานทัพอากาศของรัสเซียในแหลมไครเมียเมื่อต้นสัปดาห์นั้น ซึ่งทำให้เรือรบของรัสเซียเสียหายอย่างน้อย 8 ลำ ส่งผลให้กองบินของรัสเซียในทะเลดำลดประสิทธิภาพลง และอังกฤษยังวางแผนจะส่งตัวแทนผู้นำระดับสูงไปเยือนไต้หวัน ตามรอยสหรัฐฯด้วย