จากที่สาธารณรัฐโดเนตส์ , สาธารณรัฐลูฮันสก์ ประกาศลงประชามติแยกเอกราชไปเป็นรัฐในอารักขารัสเซีย ตั้งสถานทูตในมอสโก ต่อมามี 3 ประเทศให้การรับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ คือ รัสเซีย ซีเรีย และเกาหลีเหนือนั้น
ทั้งนี้โดยมีการเจรจาเกาหลีเหนือสนับสนุนส่งออกแรงงานเบื้องต้น 1,000 คน เพื่อมาทำงานต่างๆ ในสาธารณะโดเนตสก์ ที่มีค่าจ้างอย่างงามที่จะส่งเงินกลับครอบครัวที่เกาหลีเหนือ และทางโดเนตส์จะส่งออกสินค้าที่เกาหลีเหนือต้องการหลายชนิดเช่นธัญพืช สินแร่ พลังงาน เทคโนโลยี ฯลฯ อันเป็นจุดเริ่มต้นเปิดความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ต่อมาเพจ World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ของยูเครน ที่ทางสหรัฐและชาติยุโรปช่วยเหลือ กำลังย่ำแย่ รวมทั้งผลประโยชน์ที่ชาติตะวันตกต้องการจากยูเครนว่า
“สหรัฐ ยามนี้ต้องกัดฟันให้ยูเครนกู้เงินกระดาษรอบใหม่เป็นค่าอาวุธป๋องแป๋งคุณภาพต่ำอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่มีทางเปลี่ยนสถานการณ์ใดในยูเครนได้ กลาโหมสหรัฐ ก็รู้ความจริงข้อนี้ดี
สหรัฐต้องกัดฟันในยูเครนเพราะมีกว่า 3 บริษัทเอกชนสหรัฐ ที่ไปลงทุนกว้านซื้อขาดที่ดินยูเครนไว้ราว 28% กว่า 106 ล้านไร่ เพื่อปลูกธัญพืช แต่ตอนนี้ที่ดินเหล่านี้ถูกฝ่ายพันธมิตรรัสเซียทยอยปลดปล่อยเอกราชออกจากยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน จนกลาโหมสหรัฐ ท้อใจยื่นคำขาดกับผู้นำยูเครนว่าถ้าเสียดินแดนในภาคกลางที่ราบลุ่มแม่น้ำไปอีกจะยุติการสนับสนุนทันที
ดังนั้น EU ก็ไม่มีความจำเป็นใดต้อง ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อาวุธที่ส่งจาก EU จึงแทบไม่มีอะไรจะส่งให้ยูเครนแล้ว ขืนส่งมาก็พังเสียเปล่าๆ และเงินที่เคยรับปากจะให้ยูเครนกู้ 8,000 ล้านยูโร ก็ยกเลิกไปแล้วเพราะไม่สนิท
ความผิดพลาดนี้เกิดจากยูเครน ที่ประกาศเบี้ยวหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เป็นเวลา 2 ปี ในหลักสากลคือ การผิดนัดชำระหนี้นั่นเองไม่ต่างจากชาติที่นับถอยหลังรอวันล้มละลาย ให้กู้เพิ่มก็เสี่ยงหนี้สูญ
บรรดาผู้นำในภูมิภาคซาโปริชเซีย นาย Evgeny Balitskiy หัวหน้าฝ่ายบริหารของภูมิภาคฯ แจ้งระหว่างการประชุมระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นในเมือง Melitopol ตัวแทนกว่า 700 คนจากส่วนต่างๆ ของภูมิภาคเข้าร่วมได้อนุมัติเห็นชอบคำสั่งให้จัดการลงประชามติ แยกเอกราชออกจากยูเครนและขอเข้าร่วมรัสเซีย ในช่วงกลางเดือนกันยายน 2022
คณะผู้บริหาร 700 คน แคว้นทางใต้ซาโปริชเซีย ที่มีโรงงานถลุงเหล็กใหญ่อันดับต้น มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ และ แคว้นเคอร์ซอน ที่มีท่าเรือชายทะเลดำ ก็มองเห็นว่ายูเครนไม่มีอนาคตที่ดีอีกแล้ว ท่ามกลางหนี้สินค่าอาวุธของรัฐบาลล้นพ้นตัวจนต้องประกาศเบี้ยวชำระหนี้ 2 ปี
และคาดว่าเมื่อครบกำหนดก็จะขยายเวลาไปอีก จึงเอาอย่างบ้างโดยลงนามและประกาศทำประชามติแยกเอกราชจากยูเครนในเดือน ก.ย.2022 จากนั้นก็จะขอเข้าร่วมเป็นรัฐในอารักขารัสเซียตามกันไป
โดยรัสเซีย จัดโปรโมชั่นล้างหนี้ต่อธนาคารยูเครนให้เป็นศูนย์ จัดสรรที่ดินทำกินอุดมสมบูรณ์ที่ฝ่ายรัสเซียยึดมาฟรีจากบริษัทสหรัฐ ให้สัญชาติรัสเซีย ทุ่มเงินสวัสดิการ และไม่ต้องร่วมใช้หนี้กับยูเครน”