จากกรณีที่รัฐสภาลัตเวีย ลงมติเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ประกาศให้รัสเซียเป็น “รัฐที่สนับสนุนการก่อการร้าย” ในวันนี้ (11 ส.ค.) พร้อมระบุว่า การที่รัสเซียโจมตียูเครนถือเป็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยเล็งเป้าไปยังประชาชนชาวยูเครน”
แถลงการณ์ระบุว่า รัฐสภาลัตเวีย “พิจารณาให้รัสเซียเป็นรัฐที่สนับสนุนการก่อการร้าย และวิงวอนให้ประเทศที่มีทัศนะตรงกันออกมาแสดงความคิดเห็นแบบเดียวกัน” รัสเซียได้ดำเนินการยกพลบุกโจมตียูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหาร เพื่อปกป้องภูมิภาคดอนบาส ทำให้บรรดาชาติตะวันตกพร้อมใจออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ทว่าสงครามยังคงยืดเยื้ออย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวันนี้ (12 สิงหาคม 2565) มีรายงานว่า แฮ็กเกอร์โปรรัสเซียที่รู้จักกันในชื่อ Killnet ได้ทำลายเว็บไซต์รัฐสภาของลัตเวียเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่ฝ่ายนิติบัญญัติที่นั่นกำหนดให้รัสเซียเป็น “ผู้สนับสนุนการก่อการร้ายของรัฐ”
เว็บไซต์ของรัฐสภาล่มไปหลายชั่วโมงหลังจากถูกโจมตีโดยการโจมตีแบบปฏิเสธการให้บริการ (DDoS) แบบกระจาย ซึ่งทำให้เว็บไซต์จำนวนมากล้นไปด้วยปริมาณการใช้งานขยะเพื่อให้เข้าถึงไม่ได้ การโจมตีไม่ได้รบกวนการทำงานของรัฐสภา เนื่องจากโซลูชันการป้องกันที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม Killnet เขียนเกี่ยวกับการโจมตีในช่อง Telegram อย่างเป็นทางการและโพสต์ภาพหน้าจอยืนยันว่าเว็บไซต์หยุดทำงาน
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม Killnet ประกาศ “สงคราม” กับประเทศที่เป็นพันธมิตรกับยูเครนระหว่างทำสงครามกับรัสเซีย รายการดังกล่าวรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี ลัตเวีย โรมาเนีย ลิทัวเนีย เอสโตเนีย และโปแลนด์
“ประเทศเหล่านี้ถูกโจมตีเกือบทุกครั้งที่พวกเขาประกาศสนับสนุนยูเครน” Yuriy Shchyhol หัวหน้าแผนกสื่อสารพิเศษแห่งรัฐของยูเครนกล่าว
ลัตเวียและลิทัวเนียเป็นเป้าหมายที่พบบ่อยที่สุด ประเทศบอลติก รวมทั้งเอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนีย เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตและยังคงมีชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษารัสเซียเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในเดือนกรกฎาคม Killnet โจมตีลัตเวียด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ รวมถึงการจู่โจม 12 ชั่วโมงที่ศูนย์กระจายเสียงสาธารณะ หลังจากลัตเวียประกาศการรื้อถอนอนุสรณ์สถานโซเวียตเกือบ 300 แห่ง
หัวหน้า CERT.LV กล่าวว่า “ไม่เคยมีสถานการณ์ในไซเบอร์สเปซของลัตเวียที่ตึงเครียดมาก่อน ลัตเวียถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เกือบทุกวัน โดยมีเป้าหมายประมาณ 1,000 เป้าหมายในบางวัน
นอกจากนี้ ฟินแลนด์ พันธมิตรอีกคนหนึ่งของยูเครน ก็ถูกโจมตีเมื่อวันพุธโดยกลุ่มแฮ็กเกอร์ NoName057(16) ที่สนับสนุนรัสเซีย เว็บไซต์รัฐสภาของฟินแลนด์ล่มหลายชั่วโมงหลังจากถูกโจมตีจาก DDoS
แฮกเกอร์กล่าวว่าพวกเขา “ลงโทษ” ฟินแลนด์สำหรับความปรารถนาที่จะเข้าร่วม NATO รัสเซียถือว่า NATO เป็น “ภัยคุกคาม” ต่อความมั่นคงของชาติและกำลังพยายามป้องกันการขยายตัว การโจมตีทางไซเบอร์ในรัฐสภาฟินแลนด์เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนฟินแลนด์และสวีเดนให้เข้าร่วม NATO
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ NoName057(16) และ Killnet เคยทำงานร่วมกันมาก่อน ในปลายเดือนมิถุนายน พวกเขาทำการโจมตี DDoS หลายครั้งกับเว็บไซต์ของรัฐบาลในอิตาลี โรมาเนีย เยอรมนี นอร์เวย์ ลิทัวเนีย สาธารณรัฐเช็ก และลัตเวีย
