โลกระทึก!! รัสเซียซัดเคียฟก่อการร้าย โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เลขาUN-เมกาเสนอเป็นเขตปลอดทหาร ส่อไม่จบ

0

ทั่วโลกกำลังจับตาอย่างระทึกขวัญ กรณีการโจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองโซโปริชเชียซึ่งรัสเซียควบคุมอยู่ ยูเครนชี้ไปที่รัสเซียเป็นฝ่ายทำเพื่อทำลายชื่อเสียงยูเครน ขณะที่รัสเซียปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า รัสเซียเป็นฝ่ายควบคุมจะโจมตีทำไม ล่าสุดยูเครนก็ยังโจมตีทั้งๆที่มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง หรือ UNSCหารือแก้ปัญหา ท่าทีของเลขาธิการยูเอ็นและสหรัฐเหมือนกับเปี๊ยบว่า ต้องทำให้เป็นเขตปลอดทหาร นั่นหมายถึงขอให้รัสเซียถอนทหารที่ควบคุมดูแลโรงไฟฟ้าฯแบบนี้ก็เข้าทางยูเครนเท่านั้นเอง เพราะภูมิภาคนี้กำลังเตรียมจัดลงประชามติเข้ารวมกับรัสเซีย ล่าสุดรัสเซียยังไม่เห็นด้วยและขอให้ผู้เสนอแสดงเหตุผล สถานการณ์ครั้งนี้ รัสเซียเตือนเครียดว่า ยูเครนใช้วิธีก่อการร้ายด้วยการทำลายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซึ่งสุ่มเสี่ยงภัยพิบัติมหาศาลต่อโลกได้ 

วันที่ ๑๒ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เกิดการโจมตีครั้งล่าสุดในขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังหารือ แก้ไขปัญหาการโจมตีทางทหารที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์๋ซาโปริชเชียที่รัสเซียควบคุมอยู่ ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการต่อสู้ใกล้โรงงาน

วลาดิมีร์ โรกอฟ (Vladimir Rogov)ฝ่ายบริหารราชการทหารและพลเรือนของภูมิภาคซาโปริชเชีย กล่าวว่าวัตถุระเบิด ๕ ลูกตกลงมาใกล้สำนักงานผู้บัญชาการที่โรงงาน ถัดจากจุดเชื่อมและโรงเก็บสารกัมมันตภาพรังสี ทำให้หญ้าในพื้นที่ถูกไฟไหม้เรียบ กระสุนอีกจำนวนหนึ่งตกลงใกล้สถานีดับเพลิงข้างโรงไฟฟ้าในขณะเปลี่ยนกะ

โรกอฟกล่าวว่านี่เป็นครั้งที่สองที่โรงไฟฟ้าถูกไฟไหม้ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ส.ค.ที่ผ่านมา และระบุว่าการโจมตีนั้นดำเนินการโดยกองกำลังยูเครนโดยใช้ระบบจรวดยิงหลายระบบและปืนใหญ่ประจำตำแหน่งจากภูมิภาค เนโปรเปทรอฟสก์(Dnepropetrovsk)ที่เคียฟควบคุมอยู่

ด้านเคียฟอ้างว่ารัสเซียมุ่งเป้าโจมตีไปที่โรงงานแห่งนี้เพื่อทำลายชื่อเสียงของยูเครน ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ใช้เป็นฐานทัพ กองทหารและอาวุธหนักที่นั่น 

สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังด้านนิวเคลียร์ของ UN ไม่เข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้าแห่งนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ชาวยูเครนเป็นผู้ดูแลเครื่องปฏิกรณ์และอุปกรณ์อื่น ๆ

ก่อนหน้านี้มอสโกว์เรียกร้องให้มีการตรวจสอบ และตำหนิสหประชาชาติที่ดำเนินการอย่างล่าช้า และเรียกร้องให้เลขาธิการUN เข้าไปแทรกแซง ทั้งนี้รัสเซียได้ขอเปิดประชุมฉุกเฉิน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ส.ค.ที่ผ่านมา

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่าความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียนั้น“ไม่สามารถยอมรับได้” เขาเน้นย้ำว่า เคียฟและมอสโกว์ต้องเจรจากันไม่ให้มีการปฏิบัติการทางทหารใดๆเกิดขึ้น

กูเตอร์เรสยืนกรานว่า “ผมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายถอนกำลังพลและอุปกรณ์ทางทหารออกจากโรงงาน และงดเว้นจากการส่งกำลังหรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมไปยังที่เกิดเหตุ” “แต่จำเป็นต้องมีข้อตกลงเร่งด่วนในระดับเทคนิคเกี่ยวกับขอบเขตปลอดทหารที่ปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยของพื้นที่”

แต่การประชุมยังไร้ข้อสรุปเพราะรัสเซียจะรอให้อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนต่อข้อเสนอของเขาในการทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียเป็นเขตปลอดทหาร

วาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติ (Russian Ambassador to the United Nations Vasiliy Nebenzia) กล่าวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดีว่า

“ฉันไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรกับข้อเสนอให้เป็นเขตปลอดทหารนี้ ให้เขาชี้แจงก่อนว่าเขามีจุดมุ่งหมายถึงอะไรจากข้อเสนอแนะนี้ จะมีหลักประกันอะไรว่ายูเครนจะไม่โจมตี”

เขา กล่าวว่าการทำลายล้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชียและพื้นที่ใกล้เคียง โดยยูเครน จะทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการยั่วยุด้วยอาวุธ และลำดับความสำคัญของรัสเซียคือต้องการรักษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ปลอดภัยและดำเนินงานได้ต่อไปตามปกติ

เอกอัครราชทูตกล่าวว่ารัสเซียได้ขอให้ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติดึงความสนใจไปที่อันตรายของยูเครนที่โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย ตั้งอยู่ในเมือง เนอร์โกดาร์(Energodar) บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ดนีปเปอร์ Dnieper ที่รัสเซียควบคุมอยู่ ถูกโจมตีหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มอสโกว์ระบุว่า เคียฟยิงปืนใหญ่และโดรนโจมตีสถานที่แห่งนี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวของ”การก่อการร้ายทางนิวเคลียร์”