เปิดลับ ปูตินรุดคุยสี จิ้นผิง ก่อนปฏิบัติการณ์ยูเครน! ทูตจีนในมอสโก แฉ สหรัฐบงการสงคราม ใช้วิธีเดียวกับไต้หวัน หวังสกัดจีน-รัสเซีย 

0

เปิดลับ ปูตินรุดคุยสี จิ้นผิง ก่อนปฏิบัติการณ์ยูเครน! ทูตจีนในมอสโก แฉ สหรัฐบงการสงคราม ใช้วิธีเดียวกับไต้หวัน หวังสกัดจีน-รัสเซีย

จากกรณีที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่กำลังเดือดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งก็มีหลายประเด็นที่กำลังถูกพูดถึง ไม่ว่าจะเป็น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเฟียที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซีย ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. ตกเป็นเป้าโจมตีหลายครั้ง รวมไปถึงประเด็น ที่โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐได้ลงนามในเอกสารการให้สัตยาบันรับรองในวันที่9 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ฟินแลนด์และสวีเดนคืบหน้าไปอีกขั้นในการเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

ล่าสุดทางเพจ Thailand Vision ได้รายงานว่า นายจาง ฮั่นฮุย เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมอสโก ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียเผยแพร่เมื่อวันพุธ (10 ส.ค.) กล่าวหารัฐบาลวอชิงตันผลักรัสเซียเข้ามุม ด้วยการขยายพันธมิตรนาโตซ้ำแล้วซ้ำอีก และสนับสนุนการบีบให้ยูเครนมาเข้ากับสหภาพยุโรปแทนที่จะไปหารัสเซีย

“ในฐานะผู้ริเริ่ม และผู้บงการสำคัญของวิกฤตยูเครน วอชิงตันที่ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างกว้างขวางไม่เคยมีมาก่อน ได้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนอย่างต่อเนื่องเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการทำให้รัสเซียหมดแรงและบดขยี้ด้วยสงครามที่ยืดเยื้อและการคว่ำบาตร”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุผลของทูตจีนเช่นเดียวกับหนึ่งในเหตุผลที่รัสเซียอ้างความชอบธรรมในการรุกรานยูเครน ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตหลายพันคน หลายเมืองถูกถล่มทั้งเมือง ทั้งยังผลักดันให้ประชากรกว่าหนึ่งในสี่ของยูเครนทิ้งถิ่นฐานบ้านเรือน
เมื่อเดือน ก.พ. ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เดินทางไปกรุงปักกิ่งพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขณะที่รถถังรัสเซียระดมพลบริเวณชายแดนยูเครน ปูตินและสีเห็นชอบความเป็นพันธมิตรอย่างไม่มีขีดจำกัดเหนือกว่าพันธมิตรใดๆ ในสงครามเย็น
ในการสัมภาษณ์ จางกล่าวถึงความสัมพันธ์จีน-รัสเซียว่า เข้าสู่ “ช่วงเวลาดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เห็นได้จากความไว้วางใจระหว่างกันสูงสุด ระดับการปฏิสัมพันธ์สูงสุด และความสำคัญทางยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่สุด” ทูตจีนวิจารณ์การเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ พยายามใช้กลวิธีเดียวกันในยูเครนและไต้หวันเพื่อ “รื้อฟื้นวิธีคิดแบบสงครามเย็น สกัดจีนและรัสเซีย ปลุกเร้าความเป็นปฏิปักษ์ของมหาอำนาจและการเผชิญหน้า” ระบุ “การไม่แทรกแซงกิจการภายในถือเป็นหลักการพื้นฐานที่สุดในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลก” จางกล่าวโดยยกหลักการขึ้นมาวิจารณ์นโยบายไต้หวันของวอชิงตัน ไม่ได้หมายถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
รัสเซียเรียกการรุกรานยูเครนว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” และว่าเป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียงแค่รักษาความมั่นคงของตนเอง แต่เพื่อปกป้องประชาชนผู้พูดภาษารัสเซียไม่ได้ถูกเข่นฆ่า ซึ่งยูเครน กับชาติตะวันตกกล่าวว่า นี่คือข้ออ้างที่ไร้เหตุผลเพื่อทำสงครามจักรวรรดิรุกรานเพื่อนบ้านที่กลายเป็นรัฐอิสระหลังสหภาพโซเวียตนำโดยมอสโกล่มสลายในปี 2534