ตัวอย่างที่ดีน่าชื่นชม ไม่เข้าข้างลูก ยึดเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง กรณีจับลูกเข้าคุก 3 เดือน คดีแหกเคอร์ฟิว

0

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก โพสต์ถึงกรณีจับลูกเข้าคุก 3 เดือน กรณีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลั่น ถ้าผิดกฎเคอร์ฟิว ลั่น! ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดไม่มีข้อยกเว้น

ความคืบหน้ากรณี นางสาวเปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29 ปี ถูกจับกุมเมื่อคืนวันที่ 6 เมษายน 2563 กรณีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะขับรถมากับเพื่อนผ่านด่านตรวจบริเวณจุดตรวจแยกไฟแดงเมืองใหม่ จ.มุกดาหาร เวลา 22.30 น. ซึ่งรายงานระบุว่า ขณะถูกควบคุมตัว นางสาวเปรมประภา โวยวายและพยายามอ้างตนว่าคือลูกสาวของ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก

ในเวลาต่อมา พบว่า นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มีการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก “ลูกของใครไม่สำคัญ ลูกชาวบ้าน ลูกกำนัน ลูกผู้ว่า ถ้าผิดกฎเคอร์ฟิว ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดไม่มีข้อยกเว้นครับ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครครับ” ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากที่ยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง ไม่เข้าข้างลูก ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางสาวเปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29 ปี ในความผิดฐาน กระทำการฝ่าฝืนพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน และปรับ 5,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี

ทั้งนี้ ในส่วนของ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พบว่า ยังคงปฏิบัติหน้าที่ลงพื้นที่ทำงานปกติ เพื่อควบคุมสถานการณ์ covid 19 พร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้ จ.พิษณุโลก ยังไม่ปิดเมือง แต่จะมีด่านตรวจป้องกัน ซึ่งหากสถานการณ์แย่ลง ก็อาจจะล็อกดาวน์เช่นกัน เหมือนกับหลายจังหวัดที่ทำไปแล้วก่อนหน้านี้

ที่มา : หัวอกพ่อ! ผู้ว่าฯพิษณุโลก กรณี ‘เปรมประภา เอกภาพันธ์’