ห้างยุโรปเข้าตาจน ต้องปิดไฟขายสินค้า ลดเวลาเปิดบริการ หลังแบนรัสเซียจนพลังงานไม่พอ

0

ถือว่ายุโรปยังคงพบเจอกับวิกฤตที่ไม่สิ้นสุด ท่ามกลางบิลค่าไฟที่พุ่งเดือดกว่าหลายเท่าตัว และมีความเสี่ยงมากขึ้นว่าอาจต้องปันส่วนพลังงานกับชาติอื่น ๆ ภายหลังผู้นำต่างตบเท้า จะคว่ำบาตรรัสเซีย โดยผลกระทบลามหนักมาถึงบรรดาห้างค้าปลีกบางแห่งในยุโรป ที่ตัดสินใจปิดไฟขายสินค้า และกำลังพิจารณาลดชั่วโมงเปิดบริการในช่วงฤดูหนาวนี้ เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่อาจต้องเผชิญวิกฤตขาดแคลนพลังงาน

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดจับตาการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป

โดยบรรดาบิ๊กบอสบริษัทพลังงานและเจ้าหน้าที่รัฐบาล เรียกร้องประชาชนและภาคธุรกิจทั้งหลายลดการใช้พลังงานและกำหนดแผนฉุกเฉิน เพื่อลดพึ่งพิงการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ หากว่าต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลน อันสืบเนื่องจากสงครามในยูเครน

ห้างค้าปลีกสปาร์ ออสเตรีย จะลดชั่วโมงการเปิดไฟป้ายโฆษณาหน้าห้างและบริเวณด้านนอกของสาขาต่าง ๆ มากกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ ความเคลื่อนไหวนี้จะลดการบริโภคพลังงานของห้างค้าปลีกแห่งนี้ 1 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี

เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้บริหารของ Leclerc เตือนว่าห้างค้าปลีกอาหารรายใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสแห่งนี้ อาจลดชั่วโมงการเปิดบริการตามสาขาต่าง ๆ เพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนไฟฟ้า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วันหลังจาก คาร์ฟูร์ กลุ่มซูเปอร์มาร์เกตข้ามชาติ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในฝรั่งเศส ลงนามร่วมกับ บริษัทการไฟฟ้าแห่งฝรั่งเศส (RTE) ในการลดบริโภคไฟฟ้าตามสาขาต่าง ๆ ของพวกเขาในช่วงเวลาที่อุปสงค์ทางพลังงานพุ่งสูง

บริษัทค้าปลีกบางแห่ง ในนั้นรวมถึง Colruyt ของเบลเยี่ยม และ Ahold ใช้แนวทางที่อาจช่วยป้องกันพวกเขาจากความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและจากต้นทุนที่สูงขึ้น ผลจากโครงการพลังงานยั่งยืนในปัจจุบัน ที่ช่วยให้พวกเขาประหยัดพลังงานได้อย่างมาก “ในระยะสั้นนี้ บริษัทไม่ได้วางแผนมาตรการต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม แต่ทางบริษัทมีความทะเยอทะยานเดินหน้าความพยายามต่าง ๆ เหล่านั้น ส่วนหนึ่งในนโยบายพลังงานโดยรวมของเรา”

ทางบริษัทมีห้างปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล 44 สาขา ซึ่งไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซธรรมชาติ โดยความร้อนทั้งหมดหันไปพึ่งพาระบบความร้อนเหลือทิ้ง (waste heat) และไฟฟ้าพลังงานสะอาด

ทั้งนี้ประชากรในยุโรปต้องเผชิญทั้งค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สุดท้ายแล้ว ผู้นำแต่ละประเทศอาจจะต้องเปลี่ยนใจกลับไปง้อปูติน เพราะรัสเซียไม่ได้ถูกทำให้โดดเดี่ยวอย่างที่สหรัฐฯและยุโรปตั้งใจไว้ แต่กลับเป็นชาติคว่ำบาตรเสียเองที่ลำบากมาก ๆ ในยามนี้