ยูเครนป่วนหนัก! ปชช.2แคว้นใหญ่ทางใต้ ลุกฮือจับอาวุธสู้ โดนกองทัพไล่จับมั่ว ประกาศแยกดินแดน เป็นพันธมิตรรัสเซีย
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า เมืองนาวาโฟดารอฟกาได้รับความเสียหายจากการระเบิด โดยประชาชนได้ยินเสียงระเบิดถึง 12 ครั้ง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความตกใจไม่ใช่แค่กับประชาชนในพื้นที่ แต่รวมถึงนานาชาติด้วย เนื่องจากเหตุการณ์ระเบิดนี้เกิดขึ้นในวันที่สงครามในพื้นที่ภาคใต้ของยูเครนยังเป็นไปอย่างดุเดือด
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (10 สิงหาคม 2565) เพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ 2 แคว้นทางใต้ของยูเครน จัดตั้งกองกำลังแยกดินแดน โดยอ้างอิงจาก RFsentinel , สาธารณรัฐโดเนตส์ ระบุเนื้อหาว่า ภายหลังสาธารณรัฐโดเนตส์ , สาธารณรัฐลูฮันสก์ ประกาศลงประชามติแยกเอกราชไปเป็นรัฐในอารักขารัสเซีย ตั้งสถานทูตในมอสโก ต่อมามี 3 ประเทศให้การรับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ คือ รัสเซีย ซีเรีย เกาหลีเหนือ โดยมีการเจรจาเกาหลีเหนือสนับสนุนส่งออกแรงงานเบื้องต้น 1,000 คน เพื่อมาทำงานต่างๆ ในสาธารณะโดเนตสก์ และส่งออกสินค้าที่เกาหลีเหนือต้องการหลายชนิดเช่นธัญพืช สินแร่ พลังงาน เทคโนโลยี ฯลฯ อันเป็นจุดเริ่มต้นเปิดความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ทำให้คณะผู้บริหาร 700 คน แคว้นทางใต้ซาโปริชเซีย ที่มีโรงงานถลุงเหล็กใหญ่อันดับต้น มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ มีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ และ แคว้นเคอร์ซอน ที่มีท่าเรือชายทะเลดำ ก็มองเห็นว่ายูเครนไม่มีอนาคตที่ดีอีกแล้ว ท่ามกลางหนี้สินค่าอาวุธของรัฐบาลล้นพ้นตัวจนต้องประกาศเบี้ยวชำระหนี้ 2 ปี และคาดว่าเมื่อครบกำหนดก็จะขยายเวลาไปอีก จึงลงนามและประกาศทำประชามติแยกเอกราชจากยูเครนในเดือน ก.ย.2022 จากนั้นก็จะขอเข้าร่วมเป็นรัฐในอารักขารัสเซียตามกันไป , และยังมีแคว้นคาคิฟที่ผู้บริหารลงนามขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียไปแล้ว แต่การยึดพื้นที่ยังไม่สมบูรณ์
ล่าสุดอีก 2 แคว้นทางใต้ คือ แคว้นนิโคลาเยฟ และ แคว้นโอเดสซา ชาวยูเครนพื้นที่และอีกส่วนเดินทางมาจากกรุงเคียฟ ได้จัดตั้ง “กองกำลังแยกดินแดน” ขึ้นมาแล้ว เปิดโต๊ะเจรจาขอเป็นพันธมิตรรัสเซีย โดยทางรัสเซียขนอาวุธหนักมาให้จำนวนมากพร้อมเงินค่าจ้าง เพื่อให้กองกำลังเหล่านี้ต่อสู้กับกองทัพยูเครน เนื่องจากพวกเขาเป็นคนพื้นที่ย่อมรู้ชัยภูมิเป็นอย่างดี ขณะนี้รวบรวมกองกำลังแยกดินแดนได้กว่า 3,000 คน หัวหน้ากองพันใหม่ระบุว่า “ในอนาคตอันใกล้นี้พวกเราจะเริ่มปลดปล่อยแคว้นโอเดสซา และนิโคลาเยฟ จากพวกหัวรุนแรงทหารรับจ้าง โดยจะไม่มีความเมตตาสำหรับพวกเขา”
“เราขอเตือนให้ฝ่ายยูเครนทุกคนวางอาวุธลงทันที ถ้าต่อต้านพวกเขาจะถูกสังหาร นี่คือดินแดนของเรา หลุมฝังศพของบรรพบุรุษของพวกเราๆ จะชำระล้างประเทศ ให้สะอาดจากกองกำลังหัวรุนแรงยูเครน และพวกก่อการร้าย ” , ในทางชัยภูมินั้นแคว้นนิโคลาเยฟ มีทหารรับจ้าง Azov โปแลนด์ และจากสหรัฐ ที่เพิ่งส่งมาใหม่ถ้าที่นี่แตก เมืองท่าโอเดสซาก็ไม่มีปราการอะไรเหลือและจะถูกตีแตกในเวลาต่อเนื่องกัน ดังนั้นผู้บริหารเมืองนิโคลาเยฟ ถึงขนาดออกปากว่า “เขาคิดว่าทุกคนในเมืองเป็นพวกรัสเซีย” จึงมีการประกาศเคอร์ฟิวและไล่จับคนที่สงสัย ยิ่งทำให้ชาวเมืองโกรธแค้นหันไปร่วมกองกำลังฝ่ายแยกดินแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ฝ่ายพันธมิตรรัสเซีย โหมการถล่มเร่งยึดเหมืองเกลือที่เมืองโซเลดาร์ ที่มีโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ซับซ้อนยาวกว่า 300 กม. เป็นอุโมงค์ที่มีความกว้างสามารถขับรถบรรทุกวิ่งในอุโมงค์ได้จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญไม่ให้ฝ่ายยูเครนและ NATO ใช้ประโยชน์อุโมงค์เหมืองในการหลบภัยจากกระสุนปืนใหญ่ หรือใช้ลำเลียงและซ่อนอาวุธ