จากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย ทำให้หลายประเทศขาดแคลนพลังงานเพราะสั่งแบนน้ำมันมอสโกว ขณะเดียวกันรัสเซียก็ส่งขายกับกลุ่มพันธมิตร ทั้งยังช่วยให้เงินรูเบิลและหยวนได้รับการยอมรับมากขึ้นด้วย
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเมื่อเพจ Thailand Vision ได้โพสต์ข้อความระบุที่มาจาก บิซิเนส อินไซเดอร์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 โดยมีเนื้อหาเปิดเผยว่า
“ยอดเกินดุลของบัญชีเดินสะพัดของรัสเซียจนถึงตอนนี้นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางรายได้จากพลังงานที่พุ่งทะยาน ผลจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโกตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน
ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของรัสเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 167,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 50,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้หากนับเฉพาะช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของรัสเซีย อยู่ที่ 138,500 ล้านดอลลาร์
มอสโกพึ่งพิงรายได้จากพลังงานเป็นอย่างสูง และรายได้ของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งทะยาน แม้สงครามของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในยูเครน กระตุ้นให้บรรดารัฐบาลตะวันตกและบริษัทต่างๆ พยายามบ่ายหน้าหนีจากพลังงานของรัสเซียก็ตาม
แม้มาตรการคว่ำบาตรต่างๆ เล็งเป้าหมายบีบรัดรายได้ของมอสโกและความสามารถในการทำธุรกรรมทางการเงินในระดับนานาชาติ แต่รัสเซียยังคงมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่รายได้จากพลังงานเพียงอย่างเดียว ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่พุ่งสูงของรัสเซีย ยังเป็นผลจากตัวเลขนำเข้าที่ลดลงอย่างมากและการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้ของพวกเขาเองด้วย
กระนั้นจากข้อมูลพบว่าตัวเลขการนำเข้าจากจีน พันธมิตรสำคัญ ซึ่งหลีกเลี่ยงลงโทษรัสเซียต่อสงครามในยูเครน พุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้จนขยับเข้าใกล้ระดับก่อนรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ยอดนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น 20% เป็น 6,700 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งระหว่าง 2 ชาติ ยังช่วยให้มูลค่าการค้าในรูปแบบหยวนและรูเบิลแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์”
ต่อมาเมื่อข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็ปรากฏว่า มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบางข้อความที่มีพิจารณาติดตาม เช่น
“รัสเซีย ทรัพยากรมากเหลือเกิน จึงมีความได้เปรียบในทางภูมิศาสตร์โดยธรรมชาติ ที่เหลือก็คือยุทธศาสตร์ที่มีผู้นำที่เข้าใจความได้เปรียบ
รัสเซีย มีพื้นที่ 17,100,000 ตร.กม. (พื้นที่ในยุโรป กับเอเชีย รวมกัน) ส่วนยุโรป 49 ประเทศรวมกันมี แค่ 6,000,000 ตร.กม. เล็กกว่ารัสเซียเกือบ 3 เท่า พื้นที่มาก ทรัพยากรย่อมมาก เป็นเรื่องธรรมชาติ”
“แบนแล้วคนถูกแบนรวย เหมือนฝ่ายประชาธิปไตยของไทยเลยไบเดนเป็นสามกีบแน่ๆ”
“ยุโรปคิดว่าสิ่งที่มันทำกับประเทศเล็กๆได้ผลจะทำกับมหาอำนาจได้ผล แต่คิดผิดคิดแบบไม่ได้ประเมินข้อมูลรอบด้านไม่เข้าใจกลไกการตลาด คิดหมกมุ่นแต่เรื่องประชาธิปไตย ก็เลยได้ผลตรงข้ามอย่างที่เห็น”
“มันเป็น mindset /กลยุทธ์หนึ่งในการระบายอาวุธยุทโธปกรณ์เก่า ที่มีการ update พื้นที่จัดเก็บ พร้อมกับผลิตของใหม่เข้าแทนที่นั่นเอง
เช่นเดียวกับอเมริกันชน มักใช้วิธีการยั่วยุให้ประเทศพันธมิตรกลัว แล้วมาจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากอเมริกา มีรายงานว่าสภาคองเกรสกำลังพิจารณาขาย f35 มากกว่าพันลำ อย่างน้อยญี่ปุ่นก็ปาเขาไป104 ลำ ไต้หวันสั่งซื้อระบบต่อต้านขีปนาวุธมากกว่าพันล้านดอลลาร์
ยูเครนถูกใช้พื้นที่ทดลองและปรับอาวุธยุทโธปกรณ์ของมหาอำนาจต่างๆ ผู้เดือดร้อนคือประชาชน เด็ก ผู้หญิง และคนแก่ชราโลกใบนี้ช่างโหดร้ายจริงๆ”