ไม่สลด? เปโลซี เจอวิจารณ์กระหน่ำ หลังเปิดปาก ลั่นทริปเยือนไต้หวัน คุ้มค่าอย่างที่สุด

0

หลังจากที่จีนและไต้หวัน มีความตึงเครียดมากเพิ่มขึ้น ระหว่างที่จีนประกาศซ้อมรบต่ออย่างไม่มีกำหนด และไต้หวันเองก็เริ่มเปิดฉากตอบโต้กลับ แม้ว่าจะรู้ชะตาว่า จีนอาจจะบุกเข้าไต้หวันได้ทุกเวลา

ล่าสุดนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการทูเดย์โชว์ เมื่อวันอังคาร (9 ส.ค.) เน้นย้ำว่าเธอไม่รู้สึกเสียใจต่อการเดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเร็ว ๆ นี้ซึ่งเต็มไปด้วยข้อถกเถียง และให้คำนิยามมันว่า “คุ้มค่าอย่างที่สุด”

โดยเจ้าตัวยืนยันว่าเธอ “ได้รับแรงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งสองพรรค” สำหรับการเดินทางเยือนดังกล่าว และบอกว่าเธอกับคณะผู้แทน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลไต้หวันและประชาชนชาวไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม เปโลซี เน้นย้ำว่าจุดยืนของจีนต่อการเดินทางเยือนของเธอเป็นเรื่องนอกประเด็น และบอกว่าจีนจะไม่ได้รับอนุญาตให้โดดเดี่ยวไต้หวัน หรือเป็นคนออกคำสั่งว่าใครควรหรือไม่ควรเยือนเกาะแห่งนี้ สิ่งที่จีนกำลังทำเป็นสิ่งที่พวกเขาทำตามปกติ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวถึงแนวทางตอบโต้ของทางปักกิ่ง

พร้อมระบุว่าประธานาธิบดี จิ้นผิง ทำตัวเหมือน “อันธพาล เพราะว่าเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้” การเดินทางเยือนไม่ได้ก่อความวุ่นวายใด ๆ พร้อมระบุโปรแกรมทัวร์ดังกล่าวเป็นไปตามกรอบนโยบายของสหรัฐฯ ที่ธำรงไว้ซึ่งสถานภาพปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแสดงให้จีนรู้ว่า วอชิงตันจะสนับสนุนไทเป ภายใต้กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relations Act) พร้อม ๆ กับยึดมั่นนโยบายจีนเดียว

ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อ้างว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คณะผู้แทน 2 พรรคการเมืองของสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนไต้หวัน แต่คราวนั้นไม่เห็นจะมีคนพูดอะไรเลย พร้อมชี้ว่า มีบางอย่างผิดพลาดกับภาพที่เกิดขึ้น และประเด็นโต้เถียงที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการที่เธอเป็นผู้หญิงก็เป็นได้

เมื่อถามว่าการเดินทางเยือนเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้ จะบ่อนทำลายความพยายามของทำเนียบขาวหรือไม่ ในขณะที่ทำเนียบขาวกำลังหาทางทำงานร่วมกับจีน ในการจัดการกับประเด็นทางภูมิรัฐศาสตร์และภาวะโลกร้อน ในเรื่องนี้ เปโลซี ตอบว่า “การเดินทางเยือนสำคัญมากสำหรับเรา สำหรับเราที่จะได้รับฟังเสียงประชาชนในภูมิภาค เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำให้ไต้หวันรู้ว่า สหรัฐฯ จะไม่ทอดทิ้งให้พวกเขาต้องอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว หวั่นกลัวว่าจีนจะลงมือ”

ทั้งนี้ทริปของเปโลซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนไต้หวันในปี 1997 โหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากปักกิ่ง ซึ่งเปิดการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และซ้อมรบกระสุนจริงในพื้นที่ทางทะเล 6 จุดรอบไต้หวัน นอกจากนี้ จีนยังคว่ำบาตร เปโลซี และครอบครัวของเธอ กำหนดข้อจำกัดทางการค้ากับไทเป และตัดการติดต่อทางการทูตกับสหรัฐฯ ทั้งในด้านการทหารและพลเรือนในหลายขอบเขตด้วย