ปูตินรู้ทันไบเดนจะเข้าตรวจคลังแสง แต่รัสเซียจะตรวจของสหรัฐไม่ได้! แฉผู้นำอเมริกาขอเจรจา?

0

จากที่ชาติมหาอำนาจอย่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ต่างออกมาให้มีการตรวจสอบคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์กัน ซึ่งต่อมาปรากฏว่ามีการตอบโต้ระหว่างสองฝ่าย ที่ไม่สามารถเข้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้

ทั้งนี้ความคืบหน้าล่าสุด เพจ Thailand Vision ได้ออกมาเปิดเผยโดยโพสต์ข้อความระบุแหล่งที่มาทั้งจาก รอยเตอร์และ เอเอฟพีว่า

“รัสเซียได้แจ้งไปยังสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ ที่ 8 สิงหาคม ว่าจะระงับการตรวจสอบคลังแสงของตนภายใต้สนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ New START เป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะสหรัฐฯ และพันธมิตรใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย

ประกาศดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐฯ ที่ตกต่ำลงลงอย่างมากจากผลของสงครามในยูเครน ซึ่งกระตุ้นให้โลกตะวันใช้มาตรการคว่ำบาตรลงโทษรัสเซียอย่างครอบคลุม

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า เงื่อนไขการตรวจสอบที่วอชิงตันกำหนดขึ้นนั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ฝ่ายเดียวให้สหรัฐฯ ในขณะที่สหพันธรัฐรัสเซียถูกลิดรอนสิทธิในการที่จะเข้าไปตรวจสอบคลังอาวุธบนแผ่นดินอเมริกา

“รัสเซียถูกบีบให้ต้องใช้มาตรการนี้ เนื่องจากวอชิงตันดึงดันที่จะฟื้นฟูการตรวจสอบ โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น”

ทางกระทรวงชี้ว่า มาตรการปิดน่านฟ้าและการจำกัดวีซ่าของตะวันตกเป็นอุปสรรคสำหรับมอสโกในการที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบคลังแสงของสหรัฐอเมริกาบ้าง อีกเหตุผลหนึ่งที่มอสโกหยิบยกมาอ้างก็คือ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาพุ่งสูงขึ้น

Russian President Vladimir Putin (R) and Foreign Minister Sergei Lavrov attend a meeting with the Council of Europe secretary general (not seen) at the Kremlin in Moscow on December 6, 2016. (Photo by Sergei KARPUKHIN / POOL / AFP)

“เราเชื่อว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้ง 2 ฝ่ายควรหยุดเร่งรัดกระบวนการตรวจสอบตามสนธิสัญญา New START ซึ่งเป็นความพยายามที่ไม่เกิดประโยชน์ และหันมาทบทวนปัญหาที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างรอบคอบ” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ พร้อมยืนยันว่ารัสเซียยังคงพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขสนธิสัญญาในส่วนอื่นๆ

สหรัฐฯและพันธมิตร ซึ่งรวมถึงอังกฤษและสหภาพยุโรป (อียู) ได้สั่งปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินรัสเซียผ่าน โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้หลังจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งกองทัพรัสเซียเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

สนธิสัญญา New START ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2011 กำหนดให้ทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียสามารถนำหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ออกประจำการได้ไม่เกิน 1,550 หัวรบ และถือเป็นข้อตกลงด้านอาวุธฉบับสุดท้ายระหว่าง 2 มหาอำนาจที่เคยเป็นคู่ปรับในยุคสงครามเย็น

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว คือเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ว่า วอชิงตันพร้อมที่จะเปิดเจรจากับรัสเซียเพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือใหม่ทดแทน New START ที่กำลังจะหมดอายุลงในปี 2026 หากมอสโกแสดงความเต็มใจที่จะสานต่อการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ร่วมกับอเมริกา”