จากที่รัสเซียเข้าบุกยึดเมืองสำคัญต่างๆในยูเครนไว้ได้หลายเมืองแล้ว ต่อมามีการทำประชามติของประชากรเพื่อขอรวมเข้ากับรัสเซีย จึงทำให้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ขณะนี้ฝ่าย ยูเครนและสหรัฐรวมทั้งพันธมิตรยุโรปพ่ายแพ้แล้วนั่นเอง
ล่าสุดวันนี้ 10 สิงหาคม 2565 เพจ World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ของยูเครน ที่ทางสหรัฐและชาติยุโรปช่วยเหลือ กำลังย่ำแย่ รวมทั้งผลประโยชน์ที่ชาติตะวันตกต้องการจากยูเครนว่า
“สหรัฐ ยามนี้ต้องกัดฟันให้ยูเครนกู้เงินกระดาษรอบใหม่เป็นค่าอาวุธป๋องแป๋งคุณภาพต่ำอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่มีทางเปลี่ยนสถานการณ์ใดในยูเครนได้ กลาโหมสหรัฐ ก็รู้ความจริงข้อนี้ดี
สหรัฐต้องกัดฟันในยูเครนเพราะมีกว่า 3 บริษัทเอกชนสหรัฐ ที่ไปลงทุนกว้านซื้อขาดที่ดินยูเครนไว้ราว 28% กว่า 106 ล้านไร่ เพื่อปลูกธัญพืช แต่ตอนนี้ที่ดินเหล่านี้ถูกฝ่ายพันธมิตรรัสเซียทยอยปลดปล่อยเอกราชออกจากยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน จนกลาโหมสหรัฐ ท้อใจยื่นคำขาดกับผู้นำยูเครนว่าถ้าเสียดินแดนในภาคกลางที่ราบลุ่มแม่น้ำไปอีกจะยุติการสนับสนุนทันที
ทำให้ยูเครน ต้องคอยประโคมข่าวลวงโลกว่าบุกเมืองเคอร์ซอน และซาโปริซเซีย ใกล้ชนะมากแล้ว แต่ความจริงตรงข้าม ยูเครน เสียกำลังพลยูเครน และทหารรับจ้าง Azov โปแลนด์ต่อวันปริมาณมากบางวันหลักพันขึ้นไป
สหภาพยุโรป (EU) ตอนนี้หลายชาติความรู้สึกช้าเพิ่งรู้ตัวว่าถูกสหรัฐ อังกฤษ หลอกใช้ให้คว่ำบาตรเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย และส่งอาวุธให้ยูเครน ทำให้ช่วงหลังกว่าเดือนมานี้ ที่เรือขนสินค้าธัญพืชที่ยูเครนจับเป็นตัวประกันไว้ 70 ลำจาก 16 ชาติใน 3 ท่าเรือในทะเลดำทยอยออกจากท่าไปปลายทางบ้างแล้ว ทำให้เรือประกันลดจำนวนลงเรื่อยๆ ยูเครนก็ไม่เหลืออำนาจต่อรองใดอีก
เรือขนข้าวจากยูเครน ส่งไปเลบานอน แต่ทางเลบานอนปฏิเสธรับของโดยให้เหตุผลว่าส่งมาล่าช้ากว่า 5 เดือน เลยซื้อข้าวรัสเซียไปก่อนแล้ว..ตอนนี้เรือขนข้าวนี้กำลังกลับ และต้องหาผู้ซื้อรายใหม่
ดังนั้น EU ก็ไม่มีความจำเป็นใดต้อง ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ อาวุธที่ส่งจาก EU จึงแทบไม่มีอะไรจะส่งให้ยูเครนแล้ว ขืนส่งมาก็พังเสียเปล่าๆ และเงินที่เคยรับปากจะให้ยูเครนกู้ 8,000 ล้านยูโร ก็ยกเลิกไปแล้วเพราะไม่สนิท
ความผิดพลาดนี้เกิดจากยูเครน ที่ประกาศเบี้ยวหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เป็นเวลา 2 ปี ในหลักสากลคือ การผิดนัดชำระหนี้นั่นเองไม่ต่างจากชาติที่นับถอยหลังรอวันล้มละลาย ให้กู้เพิ่มก็เสี่ยงหนี้สูญ
ประธานาธิบดีเซเลนกี้ แห่งยูเครน จึงหัวร้อนมากโวยวาย EU ที่ไม่ยอมให้กู้เงินว่าเป็นพวก ก่ออาชญากรรมสงคราม และสั่งให้ยิงอาวุธถล่มโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาโปริชเซีย ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นหนึ่งใน 10 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กองทัพรัสเซียยึดและควบคุมกิจการนานกว่า 3 เดือนแล้ว รัสเซียปล่อยไฟฟ้าไปยังเขตยึดครอง และเคยเชิญสื่อมวลชนนานาชาติไปดูโรงไฟฟ้าแห่งนี้ว่ามาตรฐานปลอดภัยอีกด้วย
ทำให้ผู้นำยูเครน ต้องการแบล็คเมล์บังคับเอาเงินกู้ยุโรป ด้วยการอ้างว่ากองทัพรัสเซียเก็บอาวุธหนักไว้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จึงสั่งกองทัพยูเครนยิงถล่มด้วยคลัสเตอร์บอมบ์ที่ยิงจากเครื่องยิงจรวดอูรากัน สมัยสหภาพโซเวียติ และปล่อยโดรนกามิกาเซ่โปแลนด์ ตกลงไปภายในระยะ 400 เมตรจากเครื่องปฏิกรณ์ที่ใช้งานได้ สร้างความเสียหายให้กับอาคารบริหารบางแห่งและตกลงไปในเขตกักเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้ว
ทำให้สายไฟเสียหาย เครื่องปฏิกรณ์เครื่องหนึ่งหยุดทำงาน และความเสียหายที่อันตรายอย่างร้ายแรง สถานีที่มีไนโตรเจนและออกซิเจนในอาคารของโรงงาน เพราะยูเครนรู้จุดอ่อนชาวยุโรปดีว่ากลัวฝังหัวนิวเคลียร์รั่วไหล ถ้าไม่ยอมให้เงินกู้ยูเครนมาถลุงเล่น ก็จะทำให้กัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ฟุ้งกระจายเข้ายุโรปไป
บรรดาผู้นำในภูมิภาคซาโปริชเซีย จึงโกรธและแตกหักรัฐบาลยูเครนกันทันที ที่ทำให้พวกเขาไม่ปลอดภัยจากนิวเคลียร์ จึงเป็นที่มาของนาย Evgeny Balitskiy หัวหน้าฝ่ายบริหารของภูมิภาคฯ แจ้งระหว่างการประชุมระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นในเมือง Melitopol ตัวแทนกว่า 700 คนจากส่วนต่างๆ ของภูมิภาคเข้าร่วมได้อนุมัติเห็นชอบคำสั่งให้จัดการลงประชามติ แยกเอกราชออกจากยูเครนและขอเข้าร่วมรัสเซีย ในช่วงกลางเดือนกันยายน 2022
โดยรัสเซีย จัดโปรโมชั่นล้างหนี้ต่อธนาคารยูเครนให้เป็นศูนย์ จัดสรรที่ดินทำกินอุดมสมบูรณ์ที่ฝ่ายรัสเซียยึดมาฟรีจากบริษัทสหรัฐ ให้สัญชาติรัสเซีย ทุ่มเงินสวัสดิการ และไม่ต้องร่วมใช้หนี้กับยูเครนต่อไป”