เรียกได้ว่าสถานการณ์ยังคงตึงเครียด นับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2565 ที่ผ่านมา ที่กองทัพจีนประกาศเดินหน้าการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบไต้หวันต่อไป โดยไม่สนใจต่อเสียงเรียกร้องให้จีนยุติการซ้อมรบในช่องแคบไต้หวันครั้งนี้ที่นับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อตอบโต้การมาเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่สร้างความเดือดดาลให้กับจีนอย่างหนัก ที่ถือว่าสหรัฐเหยียบย่ำนโยบายจีนเดียว เนื่องจากไต้หวันถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน
ตามมาด้วยการที่กองทัพไต้หวัน ก็เปิดฉากซ้อมรบเช่นกัน และมีถ้อยแถลงว่า ไม่กลัวการที่จีนซ้อมรบ ขณะที่ประชากรบางส่วนมีทั้งตื่นเต้น ออกมาชมการซ้อมรบ และบางส่วนก็หวาดระแวง ว่าสัญญาณครั้งนี้จะไม่ปกติกับไต้หวันอีกต่อไป
ล่าสุดมีรายงานว่า โจเซฟ อู๋ รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน แถลงที่กรุงไทเป ระบุว่า จีนกำลังใช้การซ้อมรบทางทหาร เพื่อประท้วงที่แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวัน เป็นข้ออ้างในการเตรียมพร้อม เพื่อบุกเกาะไต้หวัน แต่ไม่สามารถทำให้ไต้หวันกลัวได้ แม้ว่าจีนซ้อมรบต่อเนื่อง และรุกล้ำเส้นแบ่งเขตระหว่างจีนกับไต้หวันในช่องแคบไต้หวันบ่อยครั้งก็ตาม
โจเซฟ อู๋ ยังกล่าวย้ำอีกว่า จีนกำลังซ้อมรบครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมบุกไต้หวันจริง ๆ ในเร็ว ๆ นี้และยังกล่าวอีกว่า จีนจะบุกโจมตีไต้หวันหลังการซ้อมรบใหญ่เสร็จสิ้น จนถึงตอนนี้ ไต้หวันยังคงถูกปิดล้อมอย่างต่อเนื่อง และความตั้งใจที่แท้จริงของจีนคือการเปลี่ยนสถานะของไต้หวัน ซึ่งจีนเองก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้ และยืนยันมาตั้งนานแล้วว่าไต้หวันก็คือส่วนหนึ่งของจีน ไม่เคยเป็นประเทศ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากจีนยิงขีปนาวุธข้ามหัวเกาะไต้หวันไปลงอีกฟาก ซึ่งถือเป็นการประกาศว่าน่านฟ้าของไต้หวันก็คือของจีน มีจีนเดียวเท่านั้นไม่มีจีนอื่น ทำให้ตอนนี้ความหวาดระแวงถูกยกระดับดีกรีขึ้นมาอีกขั้น
อย่างไรก็ตามทำให้น่าจับมองว่า คำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวันจะเป็นจริงหรือไม่ เนื่องจากประชากรไต้หวันหวาดระแวงตั้งแต่วันที่แนนซี เปโลซี เดินทางมาเยือน ตามคำขู่ที่จีนกล่าวว่า จะมีการสอยเครื่องบินหากเข้ามาใกล้ช่องแคบไต้หวัน และเมื่อการซ้อมรบเกิดขึ้น มีความสมจริงมากกว่าทุกครั้ง จึงทำให้ประชากรไต้หวันบางส่วนเชื่อว่า อาจจะถูกบุกจริง