หลังจากที่จีนประกาศซ้อมรบต่อเนื่อง อย่างไม่มีกำหนด เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพให้สหรัฐฯได้รู้ว่า การที่จีนจะบุกไต้หวันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก และยังตอกย้ำว่าสหรัฐฯไม่ควรเข้ามาวุ่นวายเรื่องนี้ ให้ผิดหลักการของจีนเดียวอีกด้วย
ล่าสุดทางด้านนายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้กล่าวในระหว่างการเยือนแอฟริกาใต้อย่างเป็นทางการว่า สิ่งที่สหรัฐแสวงหาที่สุดคือ การเป็นหุ้นส่วนที่แท้จริงระหว่างสหรัฐและแอฟริกา ซึ่งความมุ่งมั่นในการเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการพยายามเอาชนะใครอื่นที่กำลังแย่งชิงอิทธิพลในทวีปนี้เลย สหรัฐไม่ได้มองว่าภูมิภาคนี้เป็นสนามแข่งขันระหว่างมหาอำนาจแต่อย่างใด และสำหรับยุทธศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นนั้น จะเป็นการร่วมมือกันในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การฟื้นฟูจากโรคระบาด ความไม่มั่นคงด้านอาหาร รวมไปถึงความเป็นองค์รวมมากขึ้น กับการสู้รบทางทหารในทวีปยุโรป
แม้ว่าบลิงเคนจะไม่ได้เอ่ยตรง ๆ ออกมา แต่ด้วยผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการค้าระหว่างจีนและแอฟริกา ก็ทำให้คาดกันว่า ที่สหรัฐมาเยือนแอฟริกานี้ ก็เพื่อแข่งขันกับวิสัยทัศน์ของจีนในแอฟริกา โดยจีนเคยกล่าวว่า ภูมิภาคนี้เป็นเวทีสำคัญที่จะมีความก้าวหน้าในเชิงพาณิชย์ วิสาหกิจจีนได้กลายเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมและความทันสมัยในแอฟริกา สิ่งนี้ทำให้สหรัฐต้องเข้ามาตรวจสอบตลาดแอฟริกาอีกครั้ง ด้วยมุมมองการแข่งขัน
ทั้งนี้ การค้าระหว่างจีนและแอฟริกาในปีที่แล้วนั้น ได้เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้โครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ซึ่งจีนได้สร้างท่าเรือ ถนน และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เอาไว้ใน 43 ประเทศแถบแอฟริกาใต้สะฮารา และถึงแม้ช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ทำให้การลงทุนนี้ชะลอตัวไป แต่จากข้อมูลของหน่วยงานด้านนโยบายต่างประเทศสหรัฐ ก็พบว่าจีนยังได้ให้เงินกู้แก่ประเทศในแอฟริกาประมาณ 1.3 แสนล้านดอลลาร์
ระหว่างปี 2001 – 2018 ด้วย ทางหน่วยงานฯจึงคาดการณ์ว่า การที่สหรัฐมีกลยุทธ์ล่าสุดออกมา คือการสะท้อนถึงข้อกังวลเหล่านี้ เนื่องจากการลงทุนที่หลั่งไหลเข้าไปยังแอฟริกาอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่จะทำให้ผู้นำแอฟริกา มีแนวโน้มที่จะเข้าข้างจีนต่อไปในอนาคตได้