จากที่เพจ Thailand Vision โพสต์ข้อความระบุที่มา รอยเตอร์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 รายงานถึงความคืบหน้าจากกรณีแอมเนสตี้ฯ ออกรายงานเปิดโปงถึงกองทัพยูเครน จนทำให้เซเลนสกี ต้องออกมาตอบโต้นั้น
ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ถึงความคืบหน้าต่อเหตุการณ์ ดังกล่าวไว้ว่า “องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International – AI) ออกมาแถลงขออภัยวานนี้ (7 ส.ค.) ที่ได้สร้าง “ความเจ็บปวดและความโกรธแค้น” หลังออกรายงานกล่าวหายูเครนว่าใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ จนทำให้ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ออกอาการเดือดและนำไปสู่การลาออกของผู้อำนวยการแอมเนสตีฯ ประจำกรุงเคียฟ
วันพฤหัสบดีที่แล้ว (4) แอมเนสตีฯ ได้เผยแพร่รายงานซึ่งระบุว่า กองทัพยูเครนเข้าไปตั้งฐานที่มั่นในบริเวณย่านที่พักอาศัย รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล ซึ่งเท่ากับเป็นการดึงพลเรือนให้เสี่ยงต่อการถูกรัสเซียโจมตี
“องค์การนิรโทษกรรมสากลมีความเสียใจอย่างยิ่งที่รายงานของเราซึ่งว่าด้วยกลยุทธ์ทางทหารของยูเครน ได้สร้างความเจ็บปวดและความโกรธแค้นขึ้น” แอมเนสตีฯ ระบุในอีเมลที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์
“ภารกิจสำคัญที่สุดของแอมเนสตีฯ ในสงครามครั้งนี้และในทุกๆ ความขัดแย้ง ก็คือการตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าพลเรือนได้รับการปกป้อง แน่นอนว่านี่คือเป้าหมายหนึ่งเดียวของเราในการออกรายงานวิจัยฉบับล่าสุด และแม้เราจะยืนยันในผลการศึกษานี้ แต่ก็รู้สึกเสียใจที่ได้สร้างความเจ็บปวดขึ้น”
เซเลนสกี กล่าวหาแอมเนสตีฯ ว่าพยายาม “โบ้ยความผิด” มาให้ยูเครน ทั้งๆ ที่รัสเซียเป็นผู้รุกราน ขณะที่ ออกซานา โพคัลชุก (Oksana Pokalchuk) ผู้อำนวยการแอมเนสตีฯ ประจำกรุงเคียฟ ตัดสินใจยื่นใบลาออกทันที และประณามรายงานนี้ว่าเป็นมอบ “รางวัลโฆษณาชวนเชื่อ” ให้แก่มอสโก
เจ้าหน้าที่ยูเครนยืนยันว่า พวกเขาพยายามอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่แนวหน้าแล้ว ในขณะที่รัสเซียซึ่งปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เคยล็อกเป้าโจมตีพลเรือน ยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานของแอมเนสตีฯ
แอมเนสตีฯ ยืนยันในอีเมลที่ส่งถึงรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (7) ว่า ทีมนักวิจัยพบว่ากองกำลังยูเครนเข้าไปตั้งฐานที่มั่นติดกับที่อยู่อาศัยของพลเรือนใน 19 เมืองและหมู่บ้านที่พวกเขาลงพื้นที่ ซึ่งทำให้ประชาชนเหล่านี้เสี่ยงที่จะโดนลูกหลงจากกระสุนและระเบิดของฝ่ายรัสเซีย
“ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า องค์การนิรโทษกรรมสากลกำลังโยนความผิดของรัสเซียมาให้ยูเครน และเราก็ไม่ได้พูดว่ากองทัพยูเครนไม่ได้ใช้มาตรการป้องกันที่ดีพอในส่วนอื่นๆ ของประเทศ” แอมเนสตีฯ แจง
“เราขอประกาศชัดเจนตรงนี้ว่า สิ่งที่เรารายงานเกี่ยวกับกองกำลังยูเครนไม่ได้ช่วยสร้างความชอบธรรมใดๆ ให้การรุกรานของรัสเซีย”
ขณะที่ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ผ่าน Blockdit ถึงกรณีดังไว้เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ว่า “องค์กรแอมเนสตี้ออกมาแฉ: ‘เซเลนสกีซุกทหารในโรงเรียน ในโรงพยาบาล ตึกที่ผู้คนอยู่อาศัยและห้างสรรพสินค้าเพื่อซุ่มโจมตีกองทัพรัสเซีย’:
โดยปรกติ แอมเนสตี้ คือองค์กร NGO ที่ทำงานเพื่ออเมริกามาโดยตลอด เขียนรายงานบิดเบือนเพื่อใส่ร้ายป้ายสีศัตรูของอเมริกา เช่น รัสเซีย อิหร่าน คิวบา อิรัก อาฟกานิสถาน ลิเบีย เวเนซุเอล่า นิคารากัว เกาหลีเหนือ เมียนมาร์ ฯลฯ เป็นประจำ
แต่เนื่องจากรัฐบาลเซเลนสกีได้เอาทหารไปซุ่มซ่อนตัวที่โรงเรียนอนุบาล โรงพยาบาล สถานศึกษา บ้านเรือนผู้คน ฯลฯ กลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกเพื่อแอบซุ่มโจมตีกองทัพรัสเซีย พอกองทัพรัสเซียถล่มค่ายทหารเหล่านี้เข้าก็จะถือโจมตีว่ากองทัพรัสเซียป่าเถื่อน
บังเอิญว่าสื่อน้ำดีหลายสำนักช่วยกันแฉพร้อมหลักฐานแสดงเป้าที่รัสเซียยิงถล่ม เผยแพร่ไปทั่วโลก รัฐบาลเซเลนสกีหมดน้ำยาจะแก้ตัว แอมเนสตี้ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งใน เครือ NGO ที่ทำงานเพื่อมะกัน ก็อดที่จะแฉรัฐบาลเซเลนกสกีไม่ได้”
