พร้อมบวก!? จีนประกาศซ้อมรบ ๑ เดือน ตั้งการ์ดรอ เมกาซ้อมรบทะเลจีนใต้ ส่งเรือพิฆาตเข้าช่องแคบไต้หวันท้าอีก

0

แล้วก็เป็นไปตามคาด กองทัพจีนประกาศลุยซ้อมรบต่อเฟส ๒ ในทะเลโป๋ไห่-ทะเลเหลือง ขยับเข้าใกล้น่านน้ำติดเกาหลีใต้และญีปุ่น ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดเรื่องไต้หวันที่ยังคงคุกรุ่นด้วยสงครามน้ำลาย ทั้งจากสหรัฐและพันธมิตรรวมทั้งไต้หวันที่เริ่มขยับทั้งด้านทหารและการเมือง ขณะที่ทางด้านเศรษฐกิจยังคงถูกตรึงด้วยมาตรการคว่ำบาตรของจีนอย่างเข้มงวด  ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการจัดการซ้อมรบของสหรัฐในโปรแกรมอินโด-แปซิฟิกน่านน้ำทะเลจีนใต้ หมู่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย นอกจากระดมพันธมิตรมาประณามจีนว่าแอ็คชั่นเกินไปแต่สู้กระแสหลักของนานาชาติทั่วโลกที่หนุนหลักการจีนเดียวกันอย่างกว้างขวางไม่ได้ อาจเตรียมยั่วยุทางทหารโดยหน่วยรบที่ประจำการฐานทัพโอกินาวา แย้มกับสื่อว่าหลังจีนเลิกปิดล้อมเกาะจะมาลาดตระเวณที่ช่องแคบไต้หวันทันที

วันที่ ๘ ส.ค.๒๕๖๕ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และซินหัวรายงานว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดกองทัพPLA ของจีน  บินข้ามช่องแคบไต้หวันจากสองทิศทางในการฝึกซ้อมล่าสุด เป็นการส่งท้ายของการปิดล้อมเกาะ ๔ วันด้วยการซ้อมปฏิบัติการจริงฝึก Lockdownเกาะ เร่งกระบวนการรวมชาติอย่างมีนัยสำคัญ 

สำนักงานความปลอดภัยทางทะเลของจีนหรือ เอ็มเอสเอ (MSA) ประกาศว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA ) มีกำหนดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงต่อเนื่อง ในทะเลโป๋ไห่ ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านในสุดของทะเลเหลือง อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ระหว่างวันที่ ๘ ส.ค. จนถึง ๘ ก.ย. นี้ และการซ้อมรบในเขตน่านน้ำสากลของทะเลเหลือง ระหว่างวันที่ ๗-๑๕ ส.ค. นี้

พลเอก จาง จือ หัวหน้าแผนกพนักงานภายใต้กองทัพอากาศบัญชาการภาคตะวันออกของ PLA (General Zhang Zhi, department head of a staff)กล่าวว่า “การฝึกซ้อมตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์แสดงให้เห็นว่า PLA ไม่เพียงแต่สามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำจากระยะไกลเท่านั้น แต่ยังสามารถผลักดันให้เข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นด้วย 

ฟู่ เคียนเฉา(Fu Qianshao, a Chinese mainland military aviation expert) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของกองทัพจีนแผ่นดินใหญ่ประเมินว่า “ขั้นตอนและยุทธวิธีที่ฝึกฝนในการฝึกซ้อม รวมทั้งประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกซ้อมนั้นมีค่ามาก เป็นการซ้อมเพื่อปฏิบัติการรวมประเทศด้วยกำลังที่อาจเกิดขึ้นวันใดวันหนึ่งเมื่อสถานการณ์สุกงอม  เป็นการตอบโต้อย่างทรงพลังต่อการเยือนเกาะไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี่ เปโลซี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งละเมิดอำนาจอธิปไตยของจีน ขัดขวางผู้แบ่งแยกดินแดน “ไต้หวัน” และกองกำลังแทรกแซงจากภายนอก อีกทั้งยังส่งเสริมความก้าวหน้าของการรวมชาติอย่างมาก ทั้งยังไม่หวั่นที่ฝ่ายตรงข้ามจะจับทิศทางการปฏิบัติการได้”

ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งระงับนำเข้าและส่งออกสินค้าหลายประเภทกับไต้หวัน รวมถึงทรายบริสุทธิ์ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และระงับช่องทางการติดต่อระดับทวิภาคี๘ด้านกับสหรัฐ รวมถึงปิดสายด่วนด้านความมั่นคง เรียกว่าซัดหมัดตรงใส่สหรัฐทำไบเดนไปไม่ถูก หันไปเคลื่อนไหวเรื่องภายในประเทศมากขึ้น ใกล้เลือกตั้งกลางเทอมแต่คะแนนตกต่อเนื่องเพราะปัญหารุมเร้าหนัก ทั้งล้มเหลวทางเศรษฐกิจ พลาดในนโยบายต่างประเทศ ก่อความไม่พอใจในหมู่นักธุรกิจ นักลงทุนและประชาชนมากขึ้น ปล่อยรมว.ต่างประเทศแอนโทนี่ บลิงเคนแก้เกี้ยวประณามจีนไม่เลิกรา

แอนโทนี่ บลิงเคนรมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างเยือนฟิลิปปินส์ว่า อเมริกาได้รับรู้ความกังวลของพันธมิตรเกี่ยวกับการดำเนินการของจีน ที่เป็นอันตรายและบ่อนทำลายเสถียรภาพ แต่วอชิงตันพยายามหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์ลุกลาม และโจมตีว่า การที่จีนยุติการเจรจาฝ่ายเดียวกับอเมริกาใน ๘ ด้านสำคัญถือเป็นการลงโทษทั่วโลก ดึงพวกใหญ่เลย

ด้านหวัง ยี่มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ออกมาตอบโต้ทันทีว่าบลิงเคนกำลังปล่อย “ข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด” คนเปิดเกมอันตรายคือสหรัฐ ทั้งยั่วยุและท้าทายปฏิบัติการตอบโต้ของจีนตอกย้ำว่า สหรัฐเป็นฝ่ายที่ต้องรับผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง

หวังกล่าวเสริมว่า “พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือ DPP ในไต้หวัน ได้รวมการแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวันไว้ในโครงการพรรค และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรคได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อแสวงหา “เอกราชของไต้หวัน” และสร้าง “สองจีน” หรือ “หนึ่งจีน หนึ่งไต้หวัน” เปโลซีสนับสนุนความพยายามเหล่านี้อย่างเปิดเผย โดยเข้าข้างฝ่ายแบ่งแยกดินแดนเพื่อต่อต้านชาวจีน

การกระทำของสหรัฐฯ บ่อนทำลายสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน เพราะสหรัฐฯ คุ้นเคยกับการสร้างปัญหาก่อน แล้วจึงใช้มันเพื่อให้บรรลุวาระเชิงกลยุทธ์ของตนเอง

มีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ วางแผนใช้การมาเยือนของเปโลซีกระตุ้นความขัดแย้งและใช้โอกาสในการเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคนี้ ซึ่งสมควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างสูงและการต่อต้านอย่างเด็ดเดี่ยวจากทุกฝ่าย 

เขาเน้นว่ามาตรการที่จีนนำมาใช้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย สมเหตุสมผล ทั้งจำเป็น เปิดกว้าง และเป็นสัดส่วน อีกทั้งขอบคุณทุกประเทศที่เข้าใจและสนับสนุนจุดยืนของจีน เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศยืนหยัดต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียว และพฤติกรรมการกลั่นแกล้งประเทศอื่นตามอำเภอใจ เพื่อร่วมกันปกป้องบรรทัดฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดจนสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมดอย่างไม่ลังเล!!!