หลังจากที่มีรายงานว่า จีนได้ประกาศมาตรการระงับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ในประเด็นความร่วมมือ 8 ด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยกเลิกการประชุมหารือความปลอดภัยทางทะเลของจีน-สหรัฐฯ (MMCA) และ ยกเลิกการเจรจาผู้บัญชาการกองทัพจีน-สหรัฐฯ
โดยความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ปะทุเดือดครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการเดินทางไปเนยือนไต้หวันของ แนนซี เปโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ยังคงตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งจีนยังประกาศคว่ำบาตรเปโลซีและสมาชิกในครอบครัวสายตรงของเธอด้วย สำหรับสิ่งที่จีนเรียกว่าเป็น “การกระทำที่โหดร้ายและยั่วยุ” ของเธอ
ทั้งนี้ทำเนียบขาวยังกล่าวว่า ได้เรียกเอกอัครราชทูตจีนประจำวอชิงตันเพื่อประณามพฤติกรรม “ขาดความรับผิดชอบ” ของจีนที่มีต่อไต้หวัน แต่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตจีนรายหนึ่งในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า ทางเดียวที่จะพ้นวิกฤตนี้ได้คือให้สหรัฐฯ “แก้ไขข้อผิดพลาดและขจัดผลกระทบร้ายแรงจากการเยือนของเปโลซี”
ล่าสุดดูเหมือนว่า จีนจะเริ่มตัดสัมพันธ์กับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการกระทำที่เนียบเนียน แต่ทำให้ฝั่งสหรัฐฯสะเทือนไม่น้อย โดยในเพจเฟซบุ๊ก World Maker รายงานว่า เจ้าหน้าที่ Pentagon พยายามติดต่อจีนโดยด่วน แต่ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
2 มหาอำนาจโลกร้าวหนัก หลังจากนางเปโลซีเยือนไต้หวันไม่นาน ความวุ่นวายต่าง ๆ ก็เริ่มบังเกิด ! ล่าสุดมีรายงานจากหลายสื่อว่าเจ้าหน้าที่ของ Pentagon สหรัฐฯ พยายามติดต่อสายตรงไปยังจีน แต่ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
ตามรายงานของแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลจีนได้ปฏิเสธ หรือไม่ได้ตอบกลับสายตรงจาก Pentagon หลายครั้งทีเดียว และจนถึงตอนนี้ก็ดูเหมือนจะยังนิ่งเฉย ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าการเมืองโลกจะถูกเดินหมากอย่างไรต่อไปกันแน่ ?
ทางทำเนียบขาวกล่าวว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนนี้ ถือว่า ‘เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการคำนวณผิดและการเข้าใจผิดได้’ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก แต่ถึงกระนั้นก็ต้องมาจับตากันอย่างใกล้ชิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ?? ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนสูง สรุปและเดาอะไรได้ยากมาก