4 คำถามที่สังคมไทยมีสิทธิ์ตั้งคำถาม “สื่อ-นักวิชาการ-พรรคอนาคตใหม่”

0

​ คำถามที่สังคมไทยมีสิทธิ์ตั้งคำถาม​ “สื่อ-นักวิชาการ-พรรคอนาคตใหม่”

 

สถาบันทิศทางไทย​

 

สถาบันทิศทางไทยเป็นองค์กรสังคมที่ไม่แสวงกำไร​ เกิดขึ้นจากเจตนารมย์ร่วมกันของบุคคลหลากหลายกลุ่ม​ หลากหลายอาชีพ​ หลากหลายรุ่น​ ด้วยจุดประสงค์ที่ตรงกันเพื่อปฏิวัติความคิดของสังคมไปสู่ทิศทางที่เป็นสัมมาทิฐิ​ นำพาสังคมไทยก้าวเดินไปในทิศทางตามรอยพระยุคลบาท​ โดยไม่ตั้งตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร​หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

 

การแถลงข่าวของพรรณิการ์​ วาณิช​ โฆษกพรรคอนาคตใหม่​ที่พาดพิงถึงสถาบันทิศทางไทยกับสื่อเครือเนชั่น​นั้น​ สถาบันทิศทางไทยยืนยันว่าผู้ร่วมก่อตั้งและคณาจารย์ของสถาบันสายสื่อมวลชนนั้นได้แสดงเจตนารมย์ชัดเจนในการเข้าร่วมดำเนินการกับสถาบันฯโดยเป็นการตัดสินใจในนามส่วนตัว​ และเป็นไปโดยเปิดเผย​

 

น.ส.พรรณิการ์ วานิช

 

โดยเชื่อว่าประสบการณ์ของตนนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าอบรมและประชาชนทั่วไปที่รับข้อมูลข่าวสารของสถาบันได้​ ดังปรากฏหัวข้อ​ “ทักษะการสื่อสารใน​ New​ Media” เป็นหนึ่งในวิชาที่สถาบันได้อบรมให้ความรู้แก่สาธารณะ

 

สถาบันทิศทางไทยมีจุดยืนและหลักคิดที่ชัดเจน​โดยไม่ได้บังคับให้ใครต้องเชื่อตามทั้งหมด​ และเปิดต่อการให้สังคมสามารถวิพากษ์​ ตั้งคำถาม​ เห็นด้วยหรือโต้แย้งได้อย่างเป็นสาธารณะ​บนการถกเถียงด้วยเหตุผล ซึ่งในขณะเดียวกัน​การนำเสนอและเผยแพร่ข้อมูล​ ข้อเท็จจริงของพรรคอนาคตใหม่​ ต่างหากที่ควรต้องถูกตั้งคำถาม​จากสังคมเช่นกัน

 

(1)

คำถาม​ 1​ คือ​ จุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์​

 

แม้ว่าบุคคลในพรรคจะออกมายืนยันถึงความจงรักภักดีในการแสดงออกต่อสาธารณะในช่วงหลังๆ​ แต่ต้องไม่ลืมว่าบุคคลเหล่านี้เคยมีท่าทีและทัศนะอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์​มาก่อน

 

พฤศจิกายน 2561​  นายธนาธรได้ระบุไว้ในหนังสือ Portrait ธนาธร (ผู้เขียน: วรพจน์ พันธุ์พงศ์ สำนักพิมพ์: บางลำพู)​ ที่ได้เผยแพร่ไปอย่างกว้างขว้าง เป็นข้อเท็จริงที่นายธนาธรได้ทำขึ้นมาเอง  ในหน้าที่​ 277 นายธนาธรระบุว่า “มีอำนาจมากพอที่จะไปต่อรอง (กับ)××××”

 

 

24​ มกราคม​ 2555​  การมีทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยของนายปิยบุตร ขณะนั้นเป็นหนึ่งในนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ ได้กล่าวว่าหากประเทศไทยเลือกที่จะเดินตามทางประชาธิปไตย ก็ต้องปรับตัว กษัตริย์หรือประมุขของรัฐจะมีพระราชดำรัสสดต่อประชาชนไม่ได้

 

สิ่งที่กษัตริย์จะตรัสต่อประชาชน จึงควรเป็นสิ่งที่ยกร่างขึ้นโดยฝ่ายบริหารเป็นข้อเท็จจริงที่นายปิยบุตรกล่าวขึ้นเองตั้งแต่ก่อนมาเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่

 

25​ พฤศจิกายน​ 2553​ น.ส.พรรณิการ์ ก็ได้แสดงความคิดเห็น กิริยามิบังควร  ตอนรับปริญญา รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็เป็นการกระทำของน.ส.พรรณิการ์ของน.ส.พรรณิการ์เองทั้งสิน

 

และหลังจากเข้ามาในรัฐสภา​ พรรคอนาคตใหม่ได้ใช้เวทีรัฐสภาและบทบาทส.ส.​ ตั้งประเด็นที่ล่อแหลมและแสดงนัยกระทบกระทั่งต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่หลายครั้ง​ เช่น​

 

4 สิงหาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่เสนอแก้รัฐธรรมนูญ วางกรอบ – แตะหมวดพระมหากษัตริย์

 

15 กันยายน 2562 โฆษกพรรคกล่าวว่ารัฐธรรมนูญเฮงซวยทั้งฉบับ – แตะหมวดพระมหากษัตริย์

 

18 กันยายน 2562 พรรคอนาคตใหม่อภิปรายปมถวายสัตย์ไม่ครบ – แตะหมวดพระมหากษัตริย์ (โดยนัย)

 

28 กันยายน 2562 พรรคอนาคตใหม่ร่วมเวทีนักวิชาการเสนอแก้มาตรา 1-  แตะหมวดพระมหากษัตริย์ (โดยนัย)

 

17 ตุลาคม 2562 พรรคอนาคตใหม่อภิปราย พ.ร.ก.โอนกำลัง –   แตะหมวดพระมหากษัตริย์ (โดยนัย)

 

17 ตุลาคม 2562 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่70 คน โหวต “ไม่เห็นด้วย” กับ พ.ร.ก.โอนกำลังฯ​ การยกมือ​ “ไม่เห็นด้วย” ต่อ​ พ.ร.ก.โอนกำลัง​ ก็เป็นที่ชัดเจนว่า​ การท้าทายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นมิใช่เป็นเพียงทัศนะหรือความคิดเห็นของตัวบุคคลบางคนในพรรคอีกต่อไป

 

แม้ปากจะบอกว่าไม่ใช่พวกล้มเจ้า​ ไม่ได้ชังชาติ​ แต่ยังคงแสดงพฤติกรรม​เป็นอีกอย่าง  ​จึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกที่สังคม​จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งคำถามว่าพรรคอนาคตใหม่จะมีจุดยืนแท้จริงอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์?

 

(2)

คำถามที่​ 2​ คือ​ ความเกี่ยวโยงกับสื่อที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่

 

ขณะที่พรรณิการ์พยายามเชื่อมโยงสื่อในเครือเนชั่นกับพรรคพลังประชารัฐ​  พรรณิการ์ก็ต้องไม่ลืมว่า​ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้นมีความเชื่อมโยงอยู่กับสื่อในเครือมติชน​ โดยมารดาของธนาธรนั้นยังถือหุ้นสื่อเครือมติชน​  แม้ธนาธรจะลาออกจากกรรมการบริหารมติชนไปก่อนมาลงเล่นการเมืองแล้วก็ตาม

 

2​ พฤษภาคม​ 2556​ สมพร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ ซื้อหุ้นมติชนต่อมาจาก​ แกรมมี่​ (ไพบูลย์​ ดำรงชัยธรรม)​ 35,836,000​ หุ้น​ ในราคาหุ้นละ 11.11 บาท​ คิดเป็น​ 19.33% เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ​ 2​ (แม้ราคาหุ้นเมื่อต้นปี​ 2562​ จะเหลือเพียง​ 4.88 บาท)​

 

28 มิถุนายน 2556​ ธนาธร​ เข้าไปเป็นกรรมการ(บอร์ด) มติชน

 

14 มีนาคม 2561​ ธนาธร​ ลาออกจากกรรมการมติชน​ เพื่อมาตั้งพรรคการเมือง​ (รวมเวลาที่ธนาธรเป็นกรรมการในเครือมติชน​ 5​ ปี)​

 

15​ มีนาคม​ 2561​ ธนาธร​ ปิยบุตร​ เปิดตัวพรรคอนาคตใหม่​  (เปิดตัวอย่างเป็นทางการ​ 1​ ตุลาคม​ 2561)

 

ซึ่งการนำเสนอข่าวของสื่อในเครือมติชน​ (มติชน​ มติชนสุดสัปดาห์​ และข่าวสด)​ ในลักษณะการรายงานที่เป็นคุณต่อพรรคอนาคตใหม่​ อาทิ

 

ข่าวสด​ รายงานข่าวของ​ บีบีซี​ ว่า​ “แก้รัฐธรรมนูญ : เพราะเหตุใดข้อเสนอแก้ไข รธน. มาตรา 1 จึงถูกมองว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว” (6​ ตุลาคม​ 2562)

 

มติชนสุดสัปดาห์​ รายงานข่าวปกป้องนายธนาธรจากกรณีการถือหุ้นวีลัคว่า  “สื่อ”ในเครือข่าย พลังประชารัฐ กับอดีตสื่อ ธนาธร อนาคตใหม่ (17 พฤศจิกายน 2562)​

 

นั้นก็เป็นสิ่งที่สังคมพึงตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามได้เช่นกัน

 

(3)

คำถามที่​ 3​  บทบาทของนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัยในแนวทางวิพากษ์ความคิด “กษัตริย์นิยม” ที่ใช้ความเป็นนักวิชาการออกมาสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่

 

29​ มกราคม​ 2552​ 1,094 นักวิชาการ​ไทย-ต่างประเทศ​ลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพื่อทำลายเสรีภาพในการแสดงความเห็น เสรีภาพทางวิชาการ และเสรีภาพทางความคิด​ กับกลุ่มคนที่คัดค้านรัฐประหาร 19 กันยายน​ 2549

 

15 มกราคม 2555​ 112​ นักวิชาการ​ นักเขียน​ ศิลปิน​ (ในนาม​ คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา112 (ครก.112)​) ลงชื่อสนับสนุนให้เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญามาตรา 112 ของคณะนิติราษฎร์เข้าสู่รัฐสภา

 

21 กันยายน 2557 60​ นักวิชาการจาก​ 16​ มหาวิทยาลัย ลงชื่อใน​จดหมายเปิดผนึกประณามการที่ทหารและตำรวจบังคับให้ยุติงานเสวนาวิชาการในหัวข้อ “ห้องเรียนประชาธิปไตย” ซึ่งจัดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

 

30​ มกราคม​ 2560​ 352 นักวิชาการ​ (ในนามเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.))​ ลงชื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชั่วคราวนาย​จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน)​ ผู้ต้องหาคดี​มาตรา​ 112

 

14​ สิงหาคม​ 2560​ 128 นักวิชาการ​ (ในนามเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.))​ ออกแถลงการณ์กรณีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งกรรมการสอบสวนนายเนติวิทย์​ โชติภัทร์ไพศาล​ และเพื่อนในเหตุการณ์พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิต

 

5​ เมษายน​ 2562​  กลุ่ม​ 69​ นักวิชาการออกแถลงการณ์จี้รัฐบาลหยุดคุกคามพรรคการเมือง-แทรกแซงเลือกตั้ง​ โดยที่ในแถลงการณ์กลับระบุถึง​ “กระแสกดดันต่อพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 3 ในการเลือกตั้ง” อย่างชัดเจน

 

9​ ตุลาคม​ 2562​  กลุ่ม​ 268​ นักวิชาการ​ (​เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง)​ ลงชื่อคัดค้านการฟ้องคดีที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแจ้งความฐานยุยงปลุกปั่น​ อันเนื่องมาจากการอภิปรายเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา​ 1.​

 

โดยรายชื่อนักวิชาการกลุ่มนี้มักปรากฏรายชื่อเดิม​ และโดยที่หลายคนเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ด้วย​ เช่น​

 

-เกษียร เตชะพีระ (คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)​

-ชาญวิทย์ เกษตรศิริ​ (อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)​

-ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ​ (วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)​

-ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี​ (คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)​

-ภัควดี วีระภาสพงษ์ (นักวิชาการอิสระ)​

-สมชาย ปรีชาศิลปะกุล​ (คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน)​

-อนุสรณ์ อุณโณ (คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)​  (เป็นสามีของ​ ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์​ ที่เสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ​ มาตรา​ 1)

 

นอกจากนี้​ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, นิธิ​ เอียวศรีวงศ์,​ เกษียร เตซะพีระ, อุเชนทร์ เชียงเสน ยังเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่อีกด้วย

 

การที่นักวิชาการจะออกมาสนับสนุนความคิดการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใดย่อมมิใช่เรื่องผิดแปลกและสามารถทำได้​ ซึ่งความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่​ของนักวิชาการกลุ่มเดิม​และเป็นกลุ่มเดียวกัน​ ก็เป็นสิ่งที่สังคมสามารถตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามได้​ในลักษณะเดียวกัน​กับที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ออกมาตั้งคำถามกับนักวิชาการกลุ่มอื่นๆ

 

(4)

คำถามที่​ 4​  การร่วมกันนำเสนอข้อมูล​ ข้อเท็จจริง​ โดยการตีความและนำเสนอข้อมูลเพียงด้านเดียว​ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกับความจริง​ หรือตั้งใจให้เกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อน​ หรือ​ที่เรียกกันว่า​ การเมืองยุคหลังความจริง​ (Post-truth​ Politics)​

 

เป็นข้อเท็จจริงอย่างที่ยากปฏิเสธว่าเครือข่ายสื่อของพรรคอนาคตใหม่นั้นแข็งแรงและมีประสิทธิภาพมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

 

ในเบื้องต้นนั้น​ พึงต้องเข้าใจภาพรวม​ กลไกสื่อของพรรคอนาคตใหม่​ ซึ่งในภาพรวม​ ประกอบด้วย

 

-ตัวบุคคลของพรรค​ (ธนาธร, ปิยบุตร, พรรณิการ์, พิธา​ ฯลฯ)​

-กลุ่มคณาจารย์และนักวิชาการในเครือข่ายฟ้าเดียวกัน​ และเครือข่ายนักวิชาการปฏิกษัตริย์นิยม​ ที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่​

 

-สื่อหลักที่สนับสนุนหลักคิดและแนวทางของพรรค​ (มติชน, ข่าวสด, ประชาไท, VoiceTV, iLaw, BBCไทย)

 

-สื่อนิวมีเดียและ​ influencers ที่สนับสนุนหลักคิดและแนวทางของพรรคอนาคตใหม่​ (เพจ​ พรรคอนาคตใหม่และเพจเครือข่ายสาขาพรรค, The​ Standard, The​ Matter, The​ Momentum, เพจ​ Drama Addict, เพจ​ พระเจ้า​ ฯลฯ)

 

และ

-กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ใน​ New​ Media​ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก​ ไม่นับถึงการระดมกลุ่มผู้สนับสนุนในนิวมีเดียเข้าคุกคามและกลั่นแกล้ง​ (bully) บุคคลที่มีความเห็นต่างทางความคิดของตน​ (เช่น​ กรณี​ อุ๊​ หฤทัย, กรณี​ ปั้นจั่น, กรณี​ อ้น​ สราวุธ(ถ่ายรูปคนไม่ยืนในโรงหนัง))​

 

โดยที่เนื้อหาที่มีการเผยแพร่​​ เช่น​ การสนับสนุนเสรีนิยมประชาธิปไตย, การต่อต้านรัฐประหาร, การปฏิวัติ​ 2475, เหตุการณ์​ 6​ ตุลา​ฯ​ 2519,​ ตุลาการภิวัฒน์, ปีญหา​ 3​ จังหวัดชายแดนใต้, แก้รัฐธรรมนูญมาตรา​ 1,​ รัฐธรรมนูญเฮงซวยทั้งฉบับ, เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวาทกรรม, งบประมาณทหาร, ภาวะเศรษฐกิจ(ไม่ดี)​, โจมตีภาพลักษณ์นายกฯและ​ คสช., เรื่องทหาร(ที่ไม่ดี), การสนับสนุนม็อบนักศึกษาฮ่องกง, การไม่ยืนเคารพในโรงภาพยนตร์​ ฯลฯ​ อันเป็นการตีความหรือนำเสนอแง่มุมของเรื่องนั้น ๆเพียงด้านเดียว​(ตามแนวทางหรือแง่มุมที่ต้องการให้เข้าใจ)​ หรือตัดตอนมาพูดเฉพาะประเด็นที่ต้องการ​ (เช่นไม่พูดถึงการทุจริตของรัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์)​ หรือกระทั่งบิดเบือนข้อเท็จจริง​ (เช่น​ รองหน.พรรคอนาคตใหม่​ ที่แชร์ข่าวปลอมเรื่องกาแฟแก้วละหมื่น)​ อันเป็นสิ่งที่เรียกกันว่า​ “การเมืองแบบหลังความจริง” (Post-truth​ Politics)​

 

โดยมีการสนับสนุนกันเองแบบละเลยความจริงเชิงอัตวิสัย​ (objective truth) ระหว่าง​ พรรค-สื่อหลัก-สื่อนิวมีเดีย-นักวิชาการ ได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณะในวงกว้าง​ เช่น​ การก้าวล่วงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่​ 9​ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง, การสืบภารกิจ​ 2475,​ ประเทศประชาธิปไตยแล้วเศรษฐกิจจะดี, ฯลฯ​

 

ด้วยพฤติกรรมเช่นนี้​จึงจำเป็นยิ่งที่สังคมต้องตั้งคำถาม​ และ​ตรวจสอบ​ “พรรค-สื่อ-นักวิชาการ​ อนาคตใหม่” เพื่อคัดง้างและทำให้เกิดข้อเท็จจริงในด้านที่ถูกปิดบังปรากฏชัดเจนขึ้นเพื่อประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลจากทุกด้านเพื่อใช้วิจารญาณพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

 

ท้ายสุดการที่น.ส.พรรณิการ์ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ออกโจมตีให้ร้ายบุคคลอื่นต่าง ๆ นาน ๆ แล้วกับเท็จจริงที่ปรากฎตามคำถาม 4ข้อ ข้างต้น น.ส.พรรณิการ์ช่วยตอบได้คำถามเหล่านี้ได้หรือไม่